เอ.พี.ฮอนด้า เตรียมปั้นนักแข่งสายเลือดไทย เข้าแข่งขันสนามระดับโลก Moto GP 

เอ.พี.ฮอนด้า  แถลงนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2017 ตั้งเป้าหมายระยะยาวนำนักแข่งสายเลือดไทยสู่ Moto GP ภายในปีพ.ศ. 2025 พร้อมเริ่มวางรากฐานทีม เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิง ไทยแลนด์ ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งนักแข่งและสมาชิกในทีมแข่งอย่างเป็นระบบเพื่อก้าวสู่รายการแข่งขันระดับโลก ส่งทีมช่างเทคนิคเรียนรู้โนว์ฮาวจากค่ายโมริวากิ ที่ประเทศญี่ปุ่นและส่งนักแข่งฝีมือดีลงแข่งขันในระดับเอเชียและระดับโลกหลายรายการ อาทิ การแข่งขัน  World GP รุ่น Moto 3 รวมถึงลงแข่งขันในรายการ Suzuka 4 Hours ที่จะช่วยเสริมสร้างทั้งทักษะการขับขี่และจิตวิญญาณแห่งแข่งขันให้กับทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์   พร้อมขยายฐานกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศด้วยการจัดการแข่งขันตั้งแต่ระดับเยาวชนเพื่อเฟ้นหาเยาวชนฝีมือดีสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทย



โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า เอ.พี. ฮอนด้า มีความฝัน ในการทำให้มอเตอร์สปอร์ตกลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในระดับเดียวกับฟุตบอล ให้เป็นหนึ่งในกีฬา ที่ประชาชนชื่นชอบและใกล้ชิดกับทุกเพศทุกวัย เรามีแนวคิดที่จะขยายฐานความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น และผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยสู่ระดับโลกให้ได้ ที่ผ่านมา เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ป้อนนักแข่งสู่เวทีระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ในปี 2006 ส่ง “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ สู่สนาม Moto2 หรือในปี 2013 นอกจากนี้เราได้ปั้นนักแข่งหญิงแกร่งหนึ่งเดียวของไทยคนแรก “น้องมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช เข้าร่วมการแข่งขันในระดับเอเชีย จนสามารถคว้าแชมป์รายการ Asia Dream Cup 2015 ได้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสานฝันให้เป็นจริง เราจึงได้วางแผนงานที่สำคัญไว้ 2 เรื่อง
เริ่มจากวางเป้าหมายที่จะสร้างนักแข่งโมโต จีพี สายเลือดไทยคนแรกให้ได้ภายในปีพ.ศ. 2025 โดยระหว่างนี้ เราจะเฟ้นหาเยาวชนไทยที่มีพรสวรรค์จากกลุ่มเด็กอายุ 10 – 15 ปี และจัดการแข่งขันโดยใช้รถ NSF100 ซึ่งเป็น Racing Machine เป็นรายการเพิ่มเติมจาก Thailand Talent Cup ที่เริ่มต้นไปแล้วในปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดประตูให้เด็กไทยเข้าสู่โลกมอเตอร์สปอร์ตที่แท้จริง และเป็นช่องทางในการเฟ้นหานักแข่งสู่โมโต จีพี

เรื่องที่สอง คือ ในปีนี้เราจะเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มความท้าทายด้วยการส่งทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในฐานะทีมโรงงาน (Factory Team) ลงแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2017 และ Endurance 4 ชั่วโมงที่สนามซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักแข่ง ทีมช่าง และเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตงานทุกคนล้วนแต่เป็นคนไทยและเป็นพนักงานของ เอ.พี. ฮอนด้า เป็นหลัก ความจริงเรามีวิธีเข้าร่วมการแข่งขันที่ง่ายกว่านี้ เช่น ให้นักแข่งไทยทำสัญญากับทีมแข่งต่างประเทศอีกทีมหนึ่งแล้วลงแข่ง แต่ถ้าทำเช่นนั้นศักยภาพของทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ก็จะไม่พัฒนาขึ้น การทำทีมเองอาจจะเหนื่อยและลำบาก แต่เราได้เลือกที่จะเข้าร่วมการแข่งขันโดยทำทุกอย่างด้วยตัวเราเอง คิดเอง เตรียมงานเอง ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจากการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับทั้งนักแข่ง ตลอดจนทีมงาน พัฒนาก้าวสู่ระดับโลกตามแผนงานที่เราได้วางไว้

ด้าน สุคติ สรรพวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานวางแผนผลิตภัณ์และกีฬายานยนต์ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “การก้าวสู่ระดับโลกจำเป็นต้องวางแผนงานที่ชัดเจนในทุกระดับของการแข่งขัน โดยเป้าหมายในระยะยาวเราจะเป็นทีมแข่งสายเลือดไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะลงแข่งขันในรายการระดับโลกอย่าง World Superbike และแผนงานในปีนี้ทางทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จะส่งนักแข่งเข้าร่วมใน 2 รายการสำคัญ เริ่มจากการแข่งขันระดับ World GP ที่จะมี ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ลงแข่งขันในรุ่น Moto 3 โดยสังกัดทีม Idemitsu Honda Team Asia และถือนักแข่งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงแข่งในรายการนี้ รวมถึงลงแข่งขันในรายการ CEV Moto3 Junior World Championship 2017 ซึ่งเป็นรายการค้นหาดาวรุ่งที่สำคัญของโลก เป็นจุดเริ่มต้นของนักแข่งในระดับเวิลด์จีพีหลายคน โดยเราจะส่ง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงเจ้าของตำแหน่งแชมป์ Asia Talent Cup ปีล่าสุด

ในปีนี้เรายังได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทางค่าย Moriwaki ทีมแข่งรถระดับโลกแบบเต็มตัว การร่วมเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้ส่งผลดีต่อวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยเป็นอย่างยิ่ง โดย เอ.พี.ฮอนด้า จะส่งช่างเทคนิคทั้งหมดไปเก็บเกี่ยวความรู้และร่วมฝึกฝนกับทีมแข่งของค่าย Moriwaki ถึงประเทศญี่ปุ่นตลอดทั้งฤดูกาล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้กับทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยต่อไป

  นอกจากนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ยังคงมุ่งขยายฐานกีฬามอเตอร์สปอร์ตภายในประเทศให้กว้างขวางและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการสานต่อโครงการ Honda CBR300R Thailand Dream Cup และ Honda MSX Super Challenge รวมถึงการเฟ้นหาเยาวชนฝีมือดีในระดับเยาวชนตั้งแต่ 10 – 15 ปี ด้วยการจัดการแข่งขันที่จะใช้รถ NSF100 ซึ่งเป็น Racing Machine เพื่อการปูพื้นฐานกีฬามอเตอร์สปอร์ตตั้งแต่ระดับเยาชนในแนวทางของ Honda Racing School

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้