เอ.พี. ฮอนด้า เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดกิจกรรม Honda BigBike VIP track day, The Ultimate Riding Xperience กระหึ่ม! แทร็กสนามแข่งระดับโลก ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมชวนลูกค้าระดับวีไอพี เซเล็บบริตี้ชื่อดัง ร่วมสัมผัส Honda RC213V-S ซูเปอร์ไบค์แฮนด์เมดหนึ่งเดียวของโลกที่ถ่ายทอด DNA ของรถแข่ง MotoGP พร้อมกันนี้ยังได้สัมผัสประสบการณ์ไปกับสุดยอดรถสายพันธุ์สปอร์ตอย่าง All New Honda CBR1000RR โฉมใหม่ รวมถึง New CBR650F และ New CBR500R
โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า กิจกรรม VIP สุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของ RC213V-S มีโอกาสนำรถ RC213V-S คู่ใจมาโลดแล่นอยู่ในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแข่งระดับโลกหนึ่งเดียวของไทย ซึ่งจะเป็นสนามที่จัดรายการแข่งขัน MotoGP ในอนาคตอันใกล้ และเพื่อความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เจ้าของ RC213V-S ทุกท่านจะได้รับการดูแลโดยนักแข่งและทีมช่างมืออาชีพจากทีม A.P. Honda Racing Thailand ผมเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ จะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ในรูปแบบ Motorsport ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งถ่ายทอดผ่านรถ RC213V-S สุดยอดซูเปอร์ไบค์สายพันธุ์ MotoGP ขนานแท้ และยังมีรถ CBR series ที่จำหน่ายใน Honda BigWing มาให้ทดสอบ เพื่อให้สัมผัสถึงความสุดยอดในสมรรถนะรถสายพันธุ์สปอร์ตของฮอนด้าที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรถ MotoGP เช่นกัน
สำหรับ Honda RC213V-S คือ สุดยอดซูเปอร์ไบค์ที่ถ่ายถอดแบบมาจากรถแข่ง Honda RC213V เพื่อให้สามารถใช้งานได้บนถนนจริง โดยได้รับการพัฒนา เพื่อคงไว้ซึ่งสัญชาตญาณรถแข่งอย่างครบถ้วน ด้วยการเลือกใช้ชิ้นส่วนอย่างเหมาะสม รวมถึงส่วนประกอบที่ถูกต้องแม่นยำ เข้ากับฝีมือการประกอบจากช่างที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V4 ขนาด 1,000 ซี.ซี. ให้แรงม้าล้นเหลือเหมือนรถแข่ง RC213V ที่ใช้แข่งขันจริง ให้กำลังสูงสุด 159 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที ทั้งยังสามารถเสริมสมรรถนะด้วยของแต่งเฉพาะจากฮอนด้า โดยเพิ่มพละกำลังได้ถึง 215 แรงม้า ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเอ็กซ์คูลซีฟยิ่งกว่าด้วยจำนวนการผลิตทั้งสิ้น 213 คันทั้วโลก ซึ่งในเมืองไทยมีเพียง 10 คัน สนนราคาที่คันละ 8.7 ล้านบาท และได้ทำการส่งมอบไปเมื่องานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2016 ที่ผ่านมา
ในส่วนของ All New Honda CBR1000RR โฉมใหม่ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ถูกรังสรรค์ด้วยแนวคิด “Total Control” โดดเด่นทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ ที่ถ่ายทอดจากสนามแข่ง และที่สุดแห่งการควบคุม เสริมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่กับชุดอุปกรณ์ควบคุม อิเล็กทรอนิคที่จะช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 1000 ซี.ซี.อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 ให้กำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์ ที่ 13,000 รอบต่อนาที เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น เช่น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝังอยู่ใน Handlebar grip เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่, Power Selector ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดคันเร่ง ขับขี่สนุกด้วยความเร็ว HSTC (Honda Selectable Torque Control) หรือระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้ควบคุมรถอย่างราบรื่น และ Engine Brake Control ที่ปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ที่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานหรือผู้ใช้เลือกตั้งค่าได้ตามต้องการ