บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ขยายความแข็งแกร่งธุรกิจบิ๊กไบค์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวโชว์รูมเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด บนถนนพระราม 5 ตอบรับกระแสตลาดบิ๊กไบค์ที่ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง ชูการให้บริการมาตรฐานระดับโลกที่เข้าใจนักขี่บิ๊กไบค์ในทุกแง่มุม ครอบคลุมทั้งการจำหน่าย สินค้าไลฟ์สไตล์ และการให้บริการหลังการขาย
สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ในการมอบที่สุดแห่งประสบการณ์บิ๊กไบค์และบริการพรีเมียมให้แก่ลูกค้าในย่านถนนพระราม 5 ความร่วมมือในครั้งนี้คือ ผลจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในประเทศไทย พร้อมแนวโน้มการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ในการขยายโชว์รูมและสร้างการเข้าถึงต่อลูกค้าในกรุงเทพฯ ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังตอกย้ำความแข็งแกร่งของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ในประเทศไทย โดยเรามีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่นี้
ทางด้าน สุทิวัส ชัยศิริวิเชียร ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเอฟ มอเตอร์ราด จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์หลักของเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด คือการให้ความสำคัญสูงสุดกับการให้บริการ เรามุ่งเน้นการทำความรู้จักและการทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริการหลังการขายที่ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด นอกจากนั้นเรายังวางแผนขยายโชว์รูมเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อต่อยอดความสำเร็จระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ที่มีอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด พระราม 5 ซึ่งเป็นสาขาที่สองของเอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,400 ตารางเมตร ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 40 ล้านบาท มีพนักงานและเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการกว่า 17 คน จึงสามารถมอบบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายที่ตรงตามมาตรฐานระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในทุกด้าน
โดยตัวอาคารและพื้นที่แสดงมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ให้กับลูกค้า ในขณะที่โซนจัดแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และโซนรับรองลูกค้าได้รับการจัดวางและออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายสูงสุดของลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เป็นหัวใจสำคัญ
มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดเผยว่า บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า เราจึงพร้อมยกระดับอีกขั้นของผลิตภัณฑ์ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B มอเตอร์ไซค์แบ็กเกอร์ที่มอบทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางควบคู่ความปราดเปรียวในการขับขี่ได้อย่างใจนึก พร้อมดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B สง่างาม หรูหรา และพละกำลังที่เหลือล้น สนนราคา 1,450,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ใหม่ เครื่องยนต์ 6 สูบ ที่มาพร้อมกับเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาแบบใหม่ และมีการปรับเปลี่ยนระบบให้ลดอัตราการปล่อยมลภาวะตามเกณฑ์ EU4 ส่วนในด้านสมรรถนะ สามารถให้พละกำลังได้สูงสุดถึง 118 กิโลวัตต์หรือ 160 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 175 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบไฟฟ้า Dynamic ESA ที่ปรับความแข็งของช่วงล่างได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ทั้งยังสามารถเลือกเปลี่ยนสไตล์การขับขี่ได้ระหว่างโหมด “Road” และ “Dynamic” เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ใหม่ มาพร้อมกับการออกแบบสไตล์แบ็กเกอร์ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวในฉบับของมอเตอร์ไซค์สไตล์ทัวริ่ง โดดเด่นและแตกต่างด้วยทรวดทรงที่ดูเพรียวลมและคล่องตัว ผสมผสานกับสัญญาณไฟท้ายที่ติดตั้งไว้เป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าสัมภาระทั้งสองข้างอย่างลงตัวตามฉบับอเมริกัน รวมไปถึง Floorboard ที่ทำให้ท่านั่งในการขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ใหม่ ยังพกอุปกรณ์มาตรฐานอีกมากมายเพื่อเสริมประสบการณ์ในการขับขี้ให้คล่องตัวและราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ ABS Pro, ระบบ Dynamic Traction Control ระบบ Keyless Ride ชุดเครื่องเสียงพร้อมรองรับระบบนำทาง และบลูทูธ ระบบ Hill Start Control (HSC) ที่ช่วยให้สามารถสตาร์ทเครื่องบนทางลาดชันได้สะดวกยิ่งขึ้น ระบบ Gear Shift Assist Pro ที่เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคลัทช์ พร้อมทั้งระบบทำความร้อนที่แฮนด์ และอื่นๆอีกมากมาย ให้คุณได้โลดแล่นสู่จุดหมายในท่วงท่าที่ทั้งสบายตัวและสง่างาม ท้าทายทุกสายตา บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B เปิดตัวด้วยสีใหม่ Black Storm Metallic ที่ผสมผสานกับสีดำในเฉดอื่นๆบนตัวถังได้อย่างลงตัว เพื่อขับเน้นรูปร่างของตัวรถให้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น