ปอร์เช่ 911 ยนตรกรรมสปอร์ต ผู้จารึกสถิติบนสนามNürburgring-Nordschleife

ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส สุดยอดยนตรกรรมผู้กำหนดบรรทัดฐานให้รถสปอร์ตจากสายการผลิตปกติ ในการวิ่งทดสอบบนสนามระดับตำนาน Nürburgring-Nordschleife ประเทศเยอรมนี ภายใต้การบังคับควบคุมพวงมาลัย ของ Kévin Estre นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่ สามารถพิชิต 1 รอบสนามได้ภายในระยะเวลาเพียง 6:56.4 นาที ด้วยพละกำลังกว่า 520 แรงม้าของจีที 3 อาร์เอส นักขับสายเลือดฝรั่งเศสผู้นี้ ทำเวลาได้รวดเร็วกว่าสถิติที่ดีที่สุด ที่เคยทำได้จากจีที 3 อาร์เอส รุ่นก่อนหน้าถึง 24 วินาที จากผลงานการขับขี่ร่วมกันของ 2 นักแข่งมือฉมัง ประกอบด้วยนักขับทดสอบของโรงงานปอร์เช่ Lars Kern และ Estre ทำให้ จีที3 อาร์เอส รุ่นล่าสุด ทำสถิติเวลาต่อรอบได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง นับเป็นรถสปอร์ตจากสายการผลิตปกติลำดับที่ 3 ต่อจากปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ และ ปอร์เช่ 911 จีที2 อาร์เอส ที่สามารถทำเวลา ต่อรอบได้ต่ำกว่า 7 นาที บนสนามแข่งระดับตำนานอันเป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าบรรดาสาวกผู้บูชาความแรง รู้จักกันดีในเส้นทางสุดหฤโหดนามว่า ‘Green Hell’ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลักสำหรับการขับขี่เพื่อทำสถิติโดยมีระยะ ทางต่อรอบที่ 20.6 กิโลเมตร



Frank Steffen Walliser รองประธานกรรมการ ผู้ดูแลรับผิดชอบส่วนงาน Motorsport และ GT Cars ของปอร์เช่ เปิดเผยว่า ไม่มีปอร์เช่รุ่นไหนที่จะมีความใกล้เคียงกับรถแข่งสายพันธุ์แท้ได้เท่ากับจีที3 อาร์เอส ใหม่ (The new GT3 RS) นวัตกรรมการสร้างสรรค์ที่กำเนิดขึ้นจากวงการกีฬาความเร็วระดับโลกได้รับการถ่ายทอดมายังรถสปอร์ต ทุกคัน ของเราอย่างเต็มเปี่ยม; ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ (Porsche 911 GT3 R) ซึ่งถูกสร้างขึ้น ด้วยหลักปรัชญาในการพัฒนายนตรกรรมสายพันธุ์จีที (GT) นั่นคือ: ความล้ำเลิศแห่งเทคโนโลยียานยนต์ที่เปี่ยมล้นไป ด้วยมนต์เสน่ห์และสนองตอบต่อการใช้งานได้อย่างแท้จริง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น Nordschleife คือ สถานที่ที่ เหมาะสมที่สุดสำหรับการทดสอบแนวความคิดดังกล่าวของเรา



Andreas Preuninger ผู้อำนวยการส่วนงาน GT Model Line เปิดเผยว่า การวิ่งรอบสนามทั้ง 4 รอบของนักขับทั้งคู่นั้น ล้วนแล้วแต่ทำเวลาได้ต่ำกว่า 7 นาที และแตกต่างกันไม่เกิน 10 วินาที นี่คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าปอร์เช่ จีที3 อาร์เอส ไม่ได้มีเพียงความโดดเด่นจากพละกำลังมหาศาล แต่ยังเต็มไปด้วยศักยภาพในการขับขี่ที่สามารถ ใช้สมรรถนะของตัวรถจนถึงขีดสุดได้อย่างไร้ข้อจำกัด ส่วนประกอบทุกชิ้นทำงานร่วมกับขุมพลังเครื่องยนต์ได้อย่าง สมบูรณ์แบบส่งผลต่อประสิทธิภาพของตัวรถ ในส่วนของนักแข่งนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าพวกเขาทั้งคู่สามารถ เข้าถึงชิ้นส่วนนับพันของตัวรถและรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดให้ออกมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งหมดนี้คือ ความแข็งแกร่งที่ไร้คู่ต่อกรของ จีที3 อาร์เอส และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง คือการได้เห็นว่า Lars และ Kévin สนุกสนานเพียงใดเมื่อได้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยของรถคันนี้



Estre นักแข่งมากฝีมือวัย 29 ปี ลงทำการขับขี่ในรอบแรกเมื่อเวลา 11:40 น. ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม ที่อุณหภูมิอากาศ 14 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิพื้นผิวสนาม 18 องศาเซลเซียส “การขับในรอบนี้คือประสบการณ์ที่ดี สำหรับผม” เขากล่าวหลังจากการขับ “ทุกทางโค้งที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเบรกที่อยู่ภายใต้การควบคุม ไม่น่าเชื่อว่า จีที3 อาร์เอส (GT3 RS) นั้น ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับรถแข่ง จีที3 อาร์ (GT3 R) เอามากๆ ต้องยกประโยชน์ส่วนหนึ่ง ให้กับยางรุ่นใหม่ที่ช่วยให้รถคันนี้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ผมชื่นชอบเครื่องยนต์ของ จีที3 อาร์เอส (GT3 RS) ในขณะที่ รอบเครื่องพุ่งขึ้นไปเกินกว่า 9,000 รอบต่อนาที ขุมพลัง 6 สูบลูกนี้ให้ความรู้สึกที่มหัศจรรย์จริงๆ สุ้มเสียงของมันสะกด ให้ผมตกอยู่ในความฝัน ทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับแรงบิดระดับมหาศาล



การวิ่งในสนาม Nürburgring ครั้งนี้ ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ได้รับการติดตั้งยางรถยนต์ Michelin Pilot Sport รุ่นล่าสุด ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในสนามและบนถนนสาธารณะ ทั้งนี้ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R ได้รับการอนุญาตให้วางจำหน่ายเฉพาะ ในภูมิภาคยุโรปผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือศูนย์บริการยางรถยนต์ ที่ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น รวมทั้งเป็นยางรถยนต์ที่แนะนำให้ใช้งานกับปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส และ ปอร์เช่ 911 จีที2 อาร์เอส



ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ถือกำเนิดขึ้นด้วยพื้นฐานของโครงสร้างตัวถังที่ใช้ในรถแข่งความเร็วสูง ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 520 แรงม้า (383 กิโลวัตต์) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ Geneva Motor Show เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลาเพียง 3.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดกว่า 312 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้