หลังจากได้เปิดตัว เทอร์ร่า ในเมืองไทยเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับและ ความสนใจอย่างดี โดยพร้อมส่งมอบรถในวันที่ 10 ต.ค. นี้ และหลังจากส่งมอบทางนิสสันพร้อมที่จะทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โชว์รูมทั่วประเทศ โดยยอดจองตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณชนถือได้ว่าเป็นไปตามเป้า โดยแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใน กทม. ราว 50% และอีก 50% เป็นลูกค้าตามหัวเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มลูกค้าอายุ 45 ปีขึ้นไป ที่ต้องการซื้อเพิ่มเป็นรถคันที่สอง ซึ่งผู้ที่ซื้อรถคันนี้เพื่อมุ่งหวังในการตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานในคันเดียว อย่างคุ้มค่า ซึ่งเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก และรถคันนี้ยังสามารถตอบโจทย์ในการเดินทางไกล ด้วยการเดินทางไปทั้ง ครอบครัว
ล่าสุดนิสสัน เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ บนเส้นทางเชียงราย-ดอยตุง-ดอยช้างมูบ และเส้นทางออฟโรด เพื่อได้สัมผัสถึงสมรรถนะและความอรรถประโยชน์ของเทอร์ร่า โดยระยะทางในการทดลองขับกว่า120 กม. เริ่มต้นจาก จ.เชียงราย ขึ้นพระตำหนักดอยตุง ไปดอยช้างมูบ ดอยผาฮี้ ตลอดจนถึง ดอยผาหมี มีรูปแบบเส้นทาง ขึ้นลงเขาสูงชันและคดเคี้ยวตลอดเวลา ทำให้ เทอร์ร่า ใหม่ ได้พิสูจน์ พละกำลังของเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะ อัตราการประหยัดน้ำมัน และด้วยระบบช่วงล่างหลังคอยล์สปริงแบบ 5-link ที่ยอดเยี่ยมสามารถช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ (body roll) ทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ไม่เหนื่อยล้า ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบาย แม้บนถนนที่คดเคี้ยว ระหว่างเส้นทางได้มีการทดลองเทคโนโลยีอัจฉริยะในนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เช่น เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารปลอดภัยยิ่งขึ้น เมื่อมีสัมภาระขนาดใหญ่หรือ ขณะมีผู้โดยสารเต็ม 7 ที่นั่ง รวมไปถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่น ๆ เช่น กล้องอัจฉริยะมองภาพ รอบทิศทางเทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อน ไหวจากกล้องรอบคัน ระบบพับเบาะอัตโนมัติ สำหรับที่นั่งแถวที่สองเพื่อ เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าออก ตลอดจนกระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวนจากภายนอก ที่ช่วยให้ภายในห้องโดยสาร มีความเงียบเติมเต็มความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
จากการได้ทดลองขับ ในครั้งนี้มีโอกาสขับในรุ่นที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ผู้เขียนมีความเห็นว่า รูปทรงภายนอกมี การออกแบบเรียบๆ ดูสุขุม ตัวถังรถดูบึกบึน ขนาดตัวรถใหญ่กำลังดี ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายเน้นการใช้งานฟังก์ชั่น ต่างๆอย่างสะดวก ได้มีโอกาสนั่งในทุกตำแหน่งของรถ ในตำแหน่งคนขับออกแบบให้ทัศนวิสัยโปร่งขับสบาย เบาะ นั่งปรับไฟฟ้า จากการขับขี่จุดอับสายตามีบ้างเล็กน้อยแต่ด้วยเทคโนโลยีของกล้องอัจจริยะมองรอบทิศทางทำให้ช่วย ในการมองเห็นอย่างมาก ส่วนตำแหน่งของผู้โดยสารด้านข้างคนขับ กว้างขวางนั่งสบาย แต่เสียดายที่เบาะเป็นปรับมือ สำหรับเบาะนั่งแถวที่สองได้ลองนั่ง รู้สึกว่าโปร่งสบายเนื่องจากแถว 2 มีการยกตำแหน่งเบาะให้สูงขึ้นกว่าแถวแรก ทำให้ผู้โดยสารไม่อึดอัดและมองเห็นได้กว้างขึ้น นั่งแล้วไม่เมารถ ในส่วนระบบแอร์มีปุ่มปรับด้านหลังแบบหมุน ซึ่งอาจจะออกแบบดูเชยไปสักนิด แต่จากการใช้งานสะดวกดีปรับได้ง่าย เบาะแถวที่ 2 สามารถพับได้ง่าย โดยมีปุ่มกดพับอัตโนมัติจากตำแหน่งด้านหน้า ส่วนที่นั่งแถวที่สามให้ความสบายในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเดินทางไกล น่าจะเหมาะกับเด็ก เพราะช่วงตำแหน่งวางขาค่อนข้างเล็ก และตำแหน่งเบาะนั่งลาดลงถ้านั่งเดินทางไกลน่าจะเมื่อยอยู่
สมรรถนะของเทอร์ร่า ต้องบอกว่าเป็นรถเอสยูวีที่ปรับจูนช่วงล่างและระบบต่างๆมาได้ดี พละกำลังแรงเหลือ เพราะเส้นทางการทดลองขับขึ้น-ลง เขา แทบตลอดเส้นทาง ผ่านทางชันมาก ผ่านโค้งพับผ้า และด้วยสมรรถนะอันโดด เด่นของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ที่อยู่ในเอสยูวีรุ่นนี้ยิ่งทำให้ การขับขี่ทำได้ง่ายดายขึ้น การทดสอบครั้งนี้ ยังได้ทดลองขับทั้งสองรุ่น คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) บนเส้นทางหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนถึงสถานีทดสอบสมรรถนะแบบออฟโรดบนเส้นทางตามธรรมชาติ เช่นผ่านเนินเพื่อทดสอบมุมเอียง เนินสลับ เนินเขาสูง และระบบแสดงผลของมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่ทาง ออฟโรด การทดสอบขับลุยน้ำ การทดสอบเทคโนโลยีของ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ในรถเอสยูวีพรีเมี่ยม เช่น เทคโนโลยี ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล มาตรแสดง ข้อมูลของระบบขับเคลื่อน รวมถึงมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่ทางออฟโรด ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ที่ให้ผู้ขับสามารถ เปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่และเทอร์ร่าใหม่ สามารถลุยภูมิประเทศต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือก 5 สี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT รุ่น 1,349,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ THB 1,427,000 สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT