มาสด้าเผยถึงความสำเร็จของครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่แกะกล่องอย่าง ALL-NEW MAZDA CX-30 ที่เพิ่งเปิดตัวเพียงไม่กี่สัปดาห์ ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่ก็สามารถสร้างการรับรู้จนเกิดกระแสตอบรับอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกค้าจองซื้อเข้ามาสูงกว่า 2,000 คัน โดยเฉพาะรุ่นท็อป SP ได้รับความนิยมสูงสุด มียอดจองกว่า 80% ทั้งนี้มาสด้าได้เริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 1,000 คัน พร้อมประกาศชัดเจนมีจำนวนรถมากเพียงพอที่พร้อมส่งให้กับลูกค้าทันที ทั้งนี้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาจองที่โชว์รูม เพียงเข้าไปหาข้อมูลและรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ HYPERLINK "http://www.mazda.co.th" www.mazda.co.th และสามารถจองผ่านระบบออนไลน์ หรือ SKY Booking ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านทาง https://skybooking.mazda.co.th/
ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จหลังการเปิดตัว ALL-NEW MAZDA CX-30 ถึงแม้จะไม่สามารถเปิดตัวแนะนำในรูปแบบที่กำหนดไว้ เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และการวางระบบออนไลน์หลังบ้านที่สามารถรองรับการใช้งานได้ 100% เราจึงตัดสินใจเดินหน้าตามกำหนดการเดิม แต่ปรับรูปแบบการนำเสนอการสื่อสารผ่าน Digital Presentation เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวในทุกมิติของตัวรถให้เข้าใจง่ายและครบถ้วนมากที่สุด อีกทั้งได้ผนึกกำลังกับผู้จำหน่ายแต่ละพื้นที่ในการสื่อสารข้อมูลกับลูกค้า แนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่สนใจ ส่งผลให้เกิดกระแสตอบรับดีเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ทุกโชว์รูมเกิดความคึกคักมีลูกค้าร่วมลงทะเบียนทดลองขับอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจองของ ALL-NEW MAZDA CX-30 นับตั้งแต่วันเปิดตัวสูงกว่า 2,000 คัน โดยรุ่น 2.0 SP เป็นรุ่นที่มียอดจองสูงสุด ที่สำคัญมาสด้ามีรถพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าทันที
ทั้งนี้มาสด้าและพันธมิตรทางธุรกิจขอแสดงความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทย ที่ได้รับผลกระทบกับโรคระบาดโควิค-19 ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ “เราจะสู้ไปด้วยกัน” ซึ่งทางมาสด้าได้ออกมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคด้วยการออกมาตรการให้พนักงานของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ปฏิบัติงานที่บ้าน Work from Home และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็น และงดการเดินทางไปต่างจังหวัดในทุกกรณี เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของพนักงาน มาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม จนถึง 12 เมษายน 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศแจ้งเพิ่มเติมอีกครั้ง