เปิดตัว “ไทเกอร์ 900 จีที” และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” แอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริ่ง

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัว “ไทเกอร์ 900 จีที” และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริ่งรุ่นใหม่ปี 2020 การออกแบบทั้งรูปลักษณ์และสไตล์ที่ดุดันกว่าเดิมด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 900 ซีซี อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานเข้ากับมาตรฐานของคุณลักษณะเฉพาะตัว ทั้งด้านโครงรถและเทคโนโลยีที่เสริมการขับขี่แนวแอดเวนเจอร์สร้างความโดดเด่นในการผจญภัยขั้นสูงสุดทุกครั้งที่ขับขี่ โดย “ไทเกอร์ 900 จีที” ราคา 549,000 บาท และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” ราคา 639,000 บาท



มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2020 ไทรอัมพ์ ได้เปิดตัว “ไทเกอร์ 900 จีที” และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริ่งรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่บนท้องถนนที่เหนือระดับยิ่งกว่าที่เคยมี ซึ่งทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบใหม่ให้มีรูปลักษณ์สไตล์ที่ดุดันยิ่งขึ้น เน้นการผจญภัยที่โดดเด่นมากกว่าเดิม ทั้งด้านโครงรถที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ เป็นการผสมผสานกันของโครงรถแบบ modular ที่มีน้ำหนักเบา รายละเอียดการตกแต่งที่ผ่านการปรับแต่งและลายเส้นที่คมชัดขึ้น ขณะที่ความกว้างของตัวรถที่แคบลงดูปราดเปรียวมากขึ้น ประกอบกับโครงรถด้านหน้าที่โปร่งขึ้น รวมไปถึงขนาดและรูปแบบตัวถังน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ จากการพัฒนานี้ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงกว่ารุ่นก่อนถึง 5 กิโลกรัม ยิ่งทำให้ไทเกอร์ 900 ทั้งสองรุ่นนี้มีความโดดเด่นตามสไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร



เครื่องยนต์พลิกโฉมด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 900 ซีซี ใหม่ล่าสุด พร้อมส่งมอบแรงบิด 87 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบต่อนาที และให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ด้านคุณลักษณะเฉพาะของระบบกันการสั่นสะเทือน พร้อมส่งมอบความเป็นไทเกอร์ที่ควบคุมได้ดีกว่าเคยด้วยโช้ค Marzocchi ขนาด 45 มิลลิเมตร โดยในรุ่น GT Pro จะเป็นโช้คหลังแก๊สที่ปรับตั้งค่าได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งมั่นใจไปอีกขั้นด้วยดิสเบรกหน้าแบบคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร และดิสเบรกหลังเดี่ยว ขนาด 255 มิลลิเมตรจาก Brembo ช่วยให้การควบคุมรถโดดเด่นและมีประสิทธิภาพสำหรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมาพร้อมถังน้ำมันขนาด 20 ลิตรที่ใหญ่กว่าเดิม บังลมหน้าที่ปรับได้ใหม่ ช่วยป้องกันลมได้ดีกว่าเดิม และปรับได้ด้วยมือเดียว ตลอดจนการปรับแต่งรถตามหลักสรีระศาสตร์เพื่อผู้ขับขี่ ช่วยทำให้ตำแหน่งการขับขี่มีความสบายมากยิ่งขึ้นและช่วยเพิ่มระดับการควบคุมของผู้ขับขี่ทั้งขณะที่รถอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อีกด้วย



เทคโนโลยีเสริมการขับขี่อันทันสมัยจัดเต็ม อาทิ หน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาด 7 นิ้ว ใหม่ ระบบ ABS ในการเข้าโค้งด้วยระบบตรวจจับแรงเฉื่อย IMU (Inertial Measurement Unit) ระบบไฟส่องสว่าง LED ใหม่ มาพร้อมกับไฟหน้า DRL โดย ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว ที่เก็บโทรศัพท์มือถือพร้อมช่องเสียบชาร์จ USB ปุ่มสวิตช์เรืองแสงที่บังคับได้ 5 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอิเล็กทรอนิกส์ และแฮนด์บังคับปรับความร้อนได้ เป็นต้น ในขณะที่รุ่น GT Pro จะมีระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Triumph Shift  Assist ใหม่ ช่วยเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงไม่ต้องบีบคลัตช์ ระบบเชื่อมต่อ My Triumph และแอพพลิเคชัน เพื่อการใช้งานโทรศัพท์ เล่นเพลง ระบบนำทางแบบ turn-by-turn และการควบคุมกล้อง GoPro โดยสามารถเข้าถึงระบบได้จากปุ่มกดและแสดงผลบนหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว รวมถึงไฟตัดหมอกเสริม LED เบาะนั่งปรับความร้อนได้ทั้งผู้ขับขี่และเบาะผู้โดยสาร และระบบควบคุมแรงดันลมยาง (TPMS) เสริมเข้ามา ส่วนโหมดการขับขี่ไทเกอร์ 900 จีที โปร มาพร้อมกับโหมดการขับขี่สูงสุด 5 โหมด ได้แก่ Rain, Road, Sport, Off-Road และ Rider-configurable และไทเกอร์ 900 จีที มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ Rain, Road และ Sport และ Off-Road



พร้อมกันนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์กว่า 65 รายการที่ถูกออกแบบมาพร้อมกับตัวรถ เพื่อให้สามารถตกแต่งเข้าชุดกันได้อย่างแนบสนิทและมีมาตรฐานคุณภาพ โดยมีชุดเก็บสัมภาระใหม่ 2 แบบเป็นการร่วมมือกับ Givi โดยในชุด Trekker จะเป็นกระเป๋าสัมภาระแบบเปิดด้านข้างพร้อมกล่องเก็บหมวกกันน็อคด้านหลังขนาด 52 ลิตร ส่วนชุด Expedition จะเป็นกระเป๋าสัมภาระแบบเปิดจากด้านบนติดตั้งคู่กับกล่องสัมภาระด้านหลังขนาด 42 ลิตร นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย สไตล์ ความสามารถในการขับขี่และความสะดวกสบาย



ทั้งนี้  “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) ราคา 549,000 บาท และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” ราคา 639,000 บาท โดยสองรุ่นมาพร้อม 3 สี ให้เลือกสรร ได้แก่ Korosi Red, Sapphire Black และ Pure White ซึ่งทุกสีจะมีตราสัญลักษณ์ติดที่ตัวถังสุดพรีเมี่ยมและดีคอลใหม่สไตล์ร่วมสมัย โดยพร้อมเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ โชว์รูมไทรอัมพ์ 14 แห่งทั่วประเทศ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้