Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสให้คุณ
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสให้คุณ
The Iconic Luxury is Coming นิยามของ Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ยนตรกรรมที่หรูหรา สง่างาม พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยขุมพลัง single-turbo twin-scroll ขนาด 2,999 ซีซี ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยชุดแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นนวัตกรรมการขับเคลื่อน ที่ลดมลพิษแต่ไม่ลดประสิทธิภาพแรงบิดและระบบส่งกำลัง มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารแบบ Super Luxury ที่มอบความใส่ใจในทุกรายละเอียดทุกตำแหน่งในห้องโดยสาร ที่อัดแน่นด้านเทคโนโลยี และความปลอดภัย ซึ่งหากใครได้สัมผัสต้องประทับใจไม่รู้ลืม
เครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบเรียง รหัส M256 ระบบอัดอากาศ single-turbo twin-scroll ขนาด 2,999 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 พละกำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า 480 นิวตันเมตร ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 510 แรงม้า 750 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 28.6 kWh ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ภายใต้การประสานพลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ Plug-in Hybrid เมื่อขับในโหมด EV ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว สามารถขับได้ไกลสูงสุดถึง 94-113* กิโลเมตร (*ระยะทางจากการทดสอบ WLTP : Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure)
The Iconic Luxury is Coming นิยามของ Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ยนตรกรรมที่หรูหรา สง่างาม พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยขุมพลัง single-turbo twin-scroll ขนาด 2,999 ซีซี ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยชุดแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นนวัตกรรมการขับเคลื่อน ที่ลดมลพิษแต่ไม่ลดประสิทธิภาพแรงบิดและระบบส่งกำลัง มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารแบบ Super Luxury ที่มอบความใส่ใจในทุกรายละเอียดทุกตำแหน่งในห้องโดยสาร ที่อัดแน่นด้านเทคโนโลยี และความปลอดภัย ซึ่งหากใครได้สัมผัสต้องประทับใจไม่รู้ลืม
เครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบเรียง รหัส M256 ระบบอัดอากาศ single-turbo twin-scroll ขนาด 2,999 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 พละกำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า 480 นิวตันเมตร ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 510 แรงม้า 750 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 28.6 kWh ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ภายใต้การประสานพลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ Plug-in Hybrid เมื่อขับในโหมด EV ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว สามารถขับได้ไกลสูงสุดถึง 94-113* กิโลเมตร (*ระยะทางจากการทดสอบ WLTP : Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure)
ภายนอกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Sensual Purity มีการออกแบบให้มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้างและช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวกแค่ใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ พร้อมระบบ Active Light System (ALS) และไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus, หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ชุดตกแต่งรอบคัน AMG bodystyling, ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบควบคุมระดับอัตโนมัติ เส้นข้างตัวรถแบบ Catwalk line ที่กด องศาให้สูงขึ้น ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ต พื้นที่ห้องโดยสารไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มพื้นที่มากขึ้น และล้ออัลลอย AMG Multi-spoke ขนาด 20 นิ้วกับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 51 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารหรูหรา พรีเมี่ยม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่นั่งเฟิร์สคลาส ติดตั้งเบาะนั่งแบบ Exclusive Nappa Leather วัสดุหนังที่มีความละเอียดและคุณภาพดีที่สุดของ Mercedes-Benz ตัดเย็บแบบ Diamond design, เบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังแบบ Multi-contour พร้อมฟังก์ชั่นนวด ENERGIZING ให้เลือกถึง 6 โปรแกรม , หน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE, ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศ AIR BALANCE Package มีระบบ Energizing Air Control Plus สามารถตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศและกรองอากาศในห้องโดยสารให้บริสุทธิ์ได้ , ระบบมัลติมีเดีย MBUX7 (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นใหม่ , ระบบ MBUX Interior Assistant ที่จะสามารถตรวจจับท่าทางและการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างลงตัว เช่น หากผู้ใช้งานกำลังยื่นมือไปเปิดประตู ระบบจะตรวจสอบความปลอดภัย ภายนอกรถให้โดยอัตโนมัติ หรือ หากผู้ใช้งานกำลังก้มตัวลงไปที่บริเวณใต้เบาะที่นั่ง ระบบจะเปิดไฟในบริเวณนั้นให้โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงยังรองรับการสั่งการต่างๆผ่านการเคลื่อนไหวของมือ , Digital cockpit หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 12.8“ที่มีการเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้ใหญ่กว่าเดิมถึง 64% พร้อมด้วยระแบบแสงบนหน้าจอที่ช่วยให้มองเห็นได้ชัดแม้อยู่ในสภาวะที่เจอแสงแดดและความจุของข้อมูล Hard Disk แบบ SSD ขนาด 320 GB พร้อม RAM 16 GB รองรับการใช้งานได้ถึง 27 ภาษา รวมถึงภาษาไทย และยังมีระบบแสดงผลแบบพักหน้าจอที่จะช่วยประหยัด พลังงานในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน
ขณะที่ระบบความบันเทิง MBUX High-End Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet ในการควบคุมหน้าจอบันเทิงขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบเสียง Burmester® 3D-Surround sound system พร้อมชุดลำโพง 15 ตัว และมาพร้อมแท็บเล็ตควบคุมระบบมัลติมีเดีย MBUX สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, หูฟังไร้สาย 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey Mercedes”, ระบบเชื่อมต่อสัญญาณ LTE สำหรับบริการ Mercedes me connect, ระบบตั้งค่ารถยนต์และตรวจสอบสถานะรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน และฟังก์ชันสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อเปิดระบบปรับอากาศด้วยโทรศัพท์มือถือ Remote Engine Start เป็นต้น
Fingerprint sensor ครั้งแรกในรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับระบบจดจำผู้ใช้งานผ่านการสแกนลายนิ้วมือ โดยระบบจะจดจำพฤติกรรมของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนตัว จุดหมายปลายทางที่ไป ตำแหน่งเบาะที่นั่ง โหมดการขับขี่ ข้อมูลการทำงานต่างๆ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้อีกด้วย
ด้านระบบความปลอดภัย Driving Assist Package รุ่นล่าสุด ถูกติดตั้งในรถคันนี้แบบอัดแน่น ทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Package, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Active Brake Assist, ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและเตือนเมื่อปล่อยมือ Active Steering Assist with hands-off warning , ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist , ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน Active Emergency Stop Assist และ Exit Warning ที่จะทำงานหากมือของผู้โดยสารมีการขยับไปใกล้ที่จับประตูด้านใน เป็นต้น
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium 2022 ใหม่ ราคาจำหน่าย 7,190,000 บาท
โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium 2022 ใหม่ ราคาจำหน่าย 7,190,000 บาท
โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Powered by
MakeWebEasy.com