Porsche AG และ Norsk Hydro ASA จะร่วมมือกันเพื่อลดมลภาวะในการปล่อยสารประกอบคาร์บอนจากรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของปอร์เช่ โดยการใช้วัสดุอลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ และกรรมวิธีการอัดขึ้นรูปด้วยของเหลว นอกจากนี้ทั้ง 2บริษัทจะร่วมกันสานต่อแนวคิด Innovative Value Chain ในส่วนของวัสดุที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่รวมไปถึงการรีไซเคิล โดยบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตหรูสัญชาติเยอรมนี และบริษัทอุตสาหกรรมสัญชาตินอร์เวย์ ได้ลงนามและจัดทำข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้ง 2 องค์กร
Hydro จะดำเนินการจัดส่งวัสดุอลูมิเนียมคาร์บอนต่ำให้แก่ปอร์เช่ และผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ของรถยนต์ปอร์เช่หลายราย โดย Hydro Reduxa 4.0 และรุ่นที่ต่ำกว่า คือวัสดุอลูมิเนียม อัลลอยด์ ที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดในวงการอุตสาหกรรมปัจจุบัน และได้รับการผลิตขึ้นด้วยการใช้พลังงานทดแทน ทั้งนี้รวมถึงการลดมลพิษจากเหมืองแร่โลหะอีกด้วย ภายในปี 2568 Hydro จะมีส่วนช่วยให้ปอร์เช่ลดมลภาวะจากวัสดุอลูมิเนียมที่ใช้ในโครงการรถยนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ถึงประมาณ 3.5 กิโลกรัม ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปริมาณอลูมิเนียม 1 กิโลกรัม จำนวนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนที่ลดลงประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์จากค่าเฉลี่ยปัจจุบันของการใช้วัสดุอลูมิเนียมที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป
Barbara Frenkel สมาชิกคณะกรรมการบริหารส่วนงาน Procurement ของ Porsche AG กล่าวว่า “ปอร์เช่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon-neutral) ตลอดจนห่วงโซ่มูลค่า (value chain) ของการผลิตรถสปอร์ตให้ได้ภายในปี 2573 อลูมิเนียมและวัตถุดิบสำหรับการผลิตแบตเตอรี่คือหัวใจหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยอลูมิเนียมของ Hydro เราตั้งเป้าหมายลดสารประกอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการใช้วัสดุดังกล่าวเป็นหลัก”
Hilde Merete Aasheim ประธานกรรมการ และ CEO ของHydro กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “เพื่อลดภาวะโลกร้อน เราจำเป็นต้องลดการใช้ระบบพลังงานต่าง ๆ ที่ปล่อยสารประกอบคาร์บอน โดยเรากำลังทำการผลิตแบบหมุนเวียนและการรีไซเคิลทรัพยากร ซึ่งอลูมิเนียมคือหัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ถึงกระนั้น supply chains ต้องถูกปรับเปลี่ยนให้ปราศจากมลภาวะ วงการอุตสาหกรรมต้องการความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น และเรายินดีที่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้บุกเบิกคิดค้นสิ่งใหม่เช่นเดียวกับปอร์เช่ ผลลัพธ์ที่เราทั้งคู่ต้องการเหมือนกันคือการผลิตรถยนต์ที่ปราศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์”
ด้วยคุณสมบัติอันยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องของความยืดหยุ่น น้ำหนักที่เบา และมีความแข็งแกร่ง ทำให้สัดส่วนของการใช้วัสดุอลูมิเนียมในรถยนต์ปอร์เช่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อลูมิเนียมคือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ทุกวันนี้ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของบริษัท ประกอบขึ้นจากอลูมิเนียมประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนงานลดสารประกอบคาร์บอนที่ทั้ง 2บริษัทต่างมุ่งมั่นทุ่มเท Hydro จะดำเนินการจัดส่งอลูมิเนียมให้แก่ปอร์เช่ รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ปอร์เช่ โดยมีเป้าหมายก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CO2-neutrality) ภายในปี 2573 โดย Hydro จะผลิตวัสดุอลูมิเนียมด้วยการใช้พลังงานทดแทน และนำเอาวัสดุที่ผ่านการใช้งานแล้วมารีไซเคิล เพื่อเพิ่มอัตราการหมุนเวียน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งใจความสำคัญของข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัท คือแนวคิดด้าน ห่วงโซ่มูลค่า หรือ value chain ในการผลิตแบตเตอรี่อย่างยั่งยืน ปอร์เช่ และHydro จะร่วมมือกันพัฒนาแผนการดำเนินงานเพื่อรีไซเคิลวัสดุจากแบตเตอรี่ในทวีปยุโรป หนึ่งในหัวใจหลักของโครงการคือการสำรวจค้นหาวิธีการสร้าง closed loop solutions ที่มีประสิทธิภาพสำหรับแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของปอร์เช่
Barbara Frenkel กล่าวเสริมว่า “การเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบที่ยั่งยืน คือหนึ่งในความท้าทายหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ Hydro มีประสบการณ์รอบด้านในการรีไซเคิลวัสดุแบตเตอรี่ ที่ปอร์เช่เรามีพันธะสัญญาอันชัดเจนต่อการเพิ่มกำลังการใช้วัสดุรีไซเคิลในรถยนต์ของเรา หลักปรัชญาเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ circular economy คือสิ่งที่เราแบ่งปันให้กับ Hydro เรามุ่งมั่นตั้งใจสร้างความมั่นคงให้แก่ supply chain ของเราในระยะยาว และคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่ก่อให้เกิดคุณค่าจากโครงการรีไซเคิลร่วมกับ Hydro”
ในทวีปยุโรป กระบวนการด้าน supply chain สำหรับวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการผลิตแบตเตอรี่ ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น กระบวนการรีไซเคิลได้รับการคาดหวังให้มีบทบาทสำคัญในฐานะต้นทางของวัสดุที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต การผสานความร่วมมือข้ามขอบเขตของอุตสาหกรรมดั้งเดิมคือสิ่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จ ปอร์เช่ และ Hydro มีพันธกิจในการแสวงหาโอกาสของผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกันในโครงการดังกล่าว โดยทั้ง 2 บริษัทต่างคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มโครงการความร่วมมือในการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ได้ภายในปี 2568