รีวิว Yamaha YZF-R7 Supersport 2 สูบ ขี่ง่าย ขี่สนุก

Yamaha YZF-R7 ถูกพัฒนาจากพื้นฐานของ Yamaha MT-07 ผสานเข้ากับเอกลักษณ์ของ Yamaha R-Series เครื่องยนต์ Crossplane 2 สูบ 689 cc ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั้งบนถนนและสนามแข่ง ดีไซน์มาจาก Yamaha YZF-R1 และ YZF-R6 นำมาถ่ายทอดลง Yamaha YZF-R7 แต่ตัว Yamaha YZF-R7 จะมีรูปร่างที่ค่อนข้างเพรียวบางกว่าอย่างชัดเจน


ไฟหน้าแบบ LED ขนาดใหญ่ ติดตั้งอยู่กึ่งกลางตัวรถไว้ตรงกลางคล้ายคลึงกับ Yamaha MT-07 โมเดลปัจจุบัน ทำให้ตัวรถดูดุดัน พร้อมกับไฟ DRL ทั้ง 2 ฝั่ง อันเป็น DNA ของ R-Series ส่วนกระจกมองข้างเป็นแบบพับได้ ไฟเลี้ยวติดตั้งบริเวณด้านข้างของตัวรถ ไฟท้ายเป็น LED แนวตั้ง ดีไซน์เดียวกับ R-Series ท่อไอเสียสั้น ออกด้านล่างข้างที่พักเท้าคนขี่


Yamaha YZF-R7 ใช้โช๊คอัพคู่หน้าแบบหัวกลับ KYB ขนาดแกน 41 มม. สามารถปรับพรีโหลด, รีบาวน์, แด๊มปิ้งได้ จัดว่าเป็นรถในตระกูลเครื่องยนต์ CP2 รุ่นแรกที่ติดตั้งโช๊คอัพแบบหัวกลับมาให้ ก็นับว่าเข้าพวกกับตระกูล R-Series ส่วนโช็คอัพหลังเป็นแบบโมโนโช็ค ปรับได้เช่นกัน



Yamaha YZF-R7 ใช้ดิสเบรกหน้าคู่แบบเรเดียลเม้าท์ ขนาด 298 มม. พร้อมระบบ ABS คาลิปเปอร์ Blue Spot แบบเรเดียลเมาท์ 4 พ็อต พร้อมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ ป้องกันท้ายปัด และทำให้การเปลี่ยนเกียร์นั้นราบรื่นง่ายขึ้น ดิสเบรกหลังเดี่ยว ขนาด 245 มม. โดยตัวลูกสูบของปั้มเบรกใช้ของ Brembo ส่วนปั๊มบนด้านหน้าจัด Brembo กระปุกแยกมาให้จากโรงงาน

Yamaha YZF-R7 ใช้ล้ออัลลอย 10 ก้านน้ำหนักเบา ล้อหน้าใช้ยางขนาด 120/70 ZR17 ส่วนล้อหลังใช้ยางขนาด 180/55 ZR17

ด้านบนของตัวรถ Yamaha YZF-R7 ตัวแฮนด์เป็นแบบจับโช๊คใต้แผงคอ เป็นอันชัดเจนว่ารถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับสายหมอบโดยเฉพาะ ส่วนหน้าจอเรือนไมล์เป็นแบบหน้าจอสี TFT บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน โดยจากหน้าจอเรือนไมล์เห็นได้อย่างชัดเจนว่า Redline ของเครื่องยนต์ Crossplane 2 อยู่สูงถึง 10,000 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของตำแหน่งเกียร์, มาตรวัดความเร็ว, ทริป, ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง



ถังน้ำมันของ Yamaha YZF-R7 มีความเพรียวบาง อันเนื่องมาจากขนาดของเครื่องยนต์ CP2 ที่ค่อนข้างน้อย ทำให้ออกแบบตัวรถบางลง ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างกระชับมากกว่า ด้านบนของตัวถัง Yamaha YZF-R7 มีการปาดเว้าบริเวณถังน้ำมันเพื่อรับกับช่วงบริเวณหัวเข่า และท่านั่งขับขี่สไตล์เรซซิ่งทุกรูปแบบ โดยความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 13 ลิตร

Yamaha YZF-R7 ใช้เบาะนั่ง 2 ตอนสไตล์สปอร์ต ความสูงของเบาะผู้ขับขี่ 835 มม. มีความบางและกว้างรับกับการนั่งที่มีท่าท่างการขี่แบบเรสซิ่ง ส่วนเบาะนั่งคนซ้อนท้ายนั้น มีความเล็กและบางเป็นอย่างมาก เสมือนมีไว้โชว์ ไม่ได้มีไว้ใช้



เครื่องยนต์ของ Yamaha YZF-R7 ใช้พื้นฐานเดียวกับ Yamaha MT-07 เป็นเครื่องยนต์ Crossplane 2 สูบเรียง ขนาด 689 cc 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 73.4 แรงม้า ที่ 8,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 67 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 6 สปีด



ความพิเศษของเครื่องยนต์ Crossplane 2 ใน Yamaha YZF-R7 นั่นคือ มีการติดตั้งสลิปเปอร์คลัทช์มาให้แล้วเรียบร้อย เป็นครั้งแรกของบล็อกเครื่อง CP2 ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้มา ช่วยลดปัญหาเรื่องล้อหลังล็อก เมื่อเชนเกียร์ลงอย่างรวดเร็ว โดย Yamaha มีควิกชิพเตอร์สำหรับรถรุ่นนี้ด้วย แต่ต้องซื้อแยกภายหลัง แต่ไม่มี Traction Control มาให้ !



Yamaha YZF-R7 ราคา 339,000 บาท



ขี่แล้วคุยหน่อย อย่างแรกเลยคือ Riding Position เป็นรถสปอร์ตที่นั่งสบาย ตัวแฮนด์ไม่ก้มมาก พักเท้าอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูงมาก ขาหนีบตรงถังน้ำมันเชื้อเพลิงแคบกระชับ มั่นใจ ตัวเบาะนั่งคนขี่ระยะยาวและกว้าง พอที่จะสไลด์ก้นเพื่อหมอบ หรือเปลี่ยนท่าทางอนจะเข้าโค้ง หรือแม้แต่การใช้งานในชีวิตประจำวัน ก็ไม่เหนื่อยก้น ผิดกับคนซ้อนเป็นอย่างมาก!!!

ส่วนเครื่องยนต์ CP2 เน้นแรงบิดในรอบต่ำ-กลาง เรียกแรงบิดได้เร็ว ใช้งานได้ง่าย เร่งแซงได้ง่ายโดยไม่ต้องเชนเกียร์ แต่ไม่ถึงกับดึงหนัก ทำให้ไม่เครียดมากเวลาขี่รถ ส่วนระบบ Assist & Slipper Clutch ก็ใช้งานได้กำลังดี ไม่ถึงกับ 100% เพราะเวลาลองเปลี่ยนเกียร์ให้ลดลงแบบรวบเกียร์จะมีอาการท้ายปัดอยู่บ้าง แต่ไม่เสียอาการยังคงควบคุมรถได้ดี



ยางติดรถเป็น Bridgestone Battlax S22 ยางหน้าขนาด 120 และยางหลัง 180 พอเหมาะกับขนาดของรถ ขี่ถนนเปียกได้ดี รีดน้ำไว ส่วนถนนแห้งไม่ต้องพูดถึงเกาะเป็นตุ๊กแก ทำให้คอนโทรลรถได้มั่นใจ ยิ่งตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 188 กิโลกรัมบวกกับช่วงล่างที่ให้มาก็ถือเป็นจุดเด่นของ Yamaha YZF-R7


ส่วนราคา 3.39 แสนบาท ทำให้ Yamaha YZF-R7 เป็นรถสปอร์ตที่เล่นได้ ขี่สนุก จะใช้เป็นรถประจำวันทำงานก็ดีมีสไตล์ หรือ จะซื้อไว้ขี่แทร็กเดย์ก็ดี ตัวรถมีท่านั่งสบาย เครื่องยนต์ CP2 พร้อม Assist & Slipper Clutch มีแรงบิดในรอบต่ำกลางใช้งานได้สบาย ไม่มีตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์มากนัก ทำให้การซ่อมบำรุงไม่จุกจิก ถ้ามี Quick Shifter มาให้ด้วยบอกเลยว่าเพอร์เฟคเลย แต่ถึงไม่มีมาให้ตั้งแต่เกิด แต่ก็ให้ปลั๊กสำหรับติดตั้ง Quick Shifter มาด้วยซึ่งขายเป็น Option และอย่าลืมว่ารถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่าเป็นรถที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ร่วมถึง Yamaha YZF-R7 ก็เช่นกัน และผู้ที่เป็นเจ้าของยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับ Yamaha Rider’s Club ทั้งปี กับราคาเพียง 339,000 บาท

ขอขอบคุณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด , Yamaha Rider’s Club สำหรับรถทดสอบ