GLA 200 AMG Dynamic ปรับโฉมใหม่ สนนราคาที่ 2.58 ล้านบาท

GLA 200 AMG Dynamic เอสยูวีดีไซน์สปอร์ต ได้รับการปรับโฉมดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมยกระดับเทคโนโลยี ที่ล้ำสมัยและระบบความปลอดภัยที่จะทำให้ทุกช่วงเวลาแห่งการขับขี่และการโดยสารเต็มไปด้วยความคล่องตัวและปลอดภัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “DYNAMIC ALL THE WAY” ชูความโดดเด่นของรถสไตล์เอสยูวีขนาดกะทัดรัดที่ผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย เข้ากับมิติแห่งการใช้งานที่มีความครอบคลุม และด้วยขุมพลังเครื่องยนต์และระบบการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้รถยนต์คันนี้ตอบโจทย์ผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ได้เป็นอย่างดี

ขุมพลังของ GLA 200 AMG Dynamic ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง รหัส M282 ขนาด 1,332 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ รองรับน้ำมัน E85 นำเสนออีกขั้นของเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยตัวกรองเขม่าอนุภาคขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้ มอบพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT)  สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 8.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ GLA 200 AMG Dynamic โดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบ AMG Line Package ที่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับรถสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG มาพร้อมกระจังหน้า Diamond radiator grille และโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ตรงกลาง ตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystyling และอุปกรณ์กันกระแทกโครงหลังคาแบบ aluminium ให้ความรู้สึกผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบความสะดวกสบายด้วยมิติตัวถังขนาดความยาว 4,436 มม. ความกว้าง 1,849 มม. ความสูง 1,605 มม. พร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่มีความจุสูงถึง 435 – 1,430 ลิตร เสริมความปลอดภัยด้วยระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยระหว่างการขับขี่ในช่วงเวลากลางคืนอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว พร้อม Sports brake ระบบช่วงล่าง Comfort suspension แบบ ride-height lowering พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งแบบ AMG Line Interior ให้ความรู้สึกดุดันแต่ยังแฝงไปด้วยความหรูหราในทุกมิติ เริ่มด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต ต่อเนื่องด้วยแผงหน้าปัดแดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลการขับขี่แบบ All-digital instrument display ซึ่งเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25 นิ้ว สะดวกสบายในทุกการขับขี่และการโดยสารด้วยเบาะนั่งแบบ Sport seats หุ้มหนัง ARTICO สลับกับ MICROCUT microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง โดยเบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่ง และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง ปรับเปลี่ยนระบบควบคุมทิศทางในการขับขี่ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่แบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ใหม่แบบ 2 โซน ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging) สำหรับที่นั่งด้านหน้า และระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT (Eco, Comfort, Sport และ Individual) สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกหลายรายการที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน

 ในส่วนของระบบความบันเทิงและการสื่อสาร มาพร้อมการปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดแบบ MBUX7 และฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple Carplay™ & Android Auto™) ให้สามารถเชื่อมต่อความบันเทิงมาสู่ห้องโดยสารอย่างไร้รอยต่อ รองรับการสั่งซื้อแอปพลิเคชั่นสำหรับรายงานสภาพการจราจรแบบออนไลน์ Live Traffic Information ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สำหรับบริการ Mercedes me connect ที่จะเปิดประตูสู่ฟังก์ชั่นระดับชั้นนำมากมาย และยกระดับการใช้งานในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ทั้งยังมีการติดตั้งไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient lighting) สามารถปรับได้กว่า 64 เฉด ที่จะช่วยเพิ่มความบันเทิงและความรื่นรมย์ขณะขับขี่และโดยสารได้ในทุกช่วงเวลา

สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของ GLA 200 AMG Dynamic มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างอย่างละ 2 ตำแหน่ง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  พร้อมด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC) ระบบแจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning) และระบบรักษาความเร็ว (CRUISE CONTROL) เป็นต้น โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Cosmos Black) สีเงิน (Iridium Silver) และสีเทา (Mountain Grey) สนนราคาที่ 2.58 ล้านบาท