ยามาฮ่าจัดกิจกรรมอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์เบื้องต้น “Learn to ride program” ให้กับสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หวังเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมส่งต่อความรู้ด้านการขับขี่อย่างถูกวิธีถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์ต่อไป
ยุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมฯ สรยท. เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก โดยความเสี่ยงส่วนหนึ่งเกิดจากขาดความรู้และ ขาดการการถ่ายทอด ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยที่ถูกต้อง ในฐานะที่สมาคมฯ เป็นศูนย์กลางของสื่อมวลชนสายยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้ที่แท้จริงเหล่านี้ไปสู่สาธารณะได้ ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมสำหรับสมาชิกฯ และครอบครัวสมาชิก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะ ผ่านรูปแบบการอบรมหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย โดยประโยชน์ของกิจกรรมนี้ ผู้เข้าอบรมไม่เพียงแต่จะปลอดภัยขึ้นเท่านั้น แต่ในฐานะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสและนำความรู้ที่แท้จริงของเทคนิค การขี่จักรยานยนต์ และนำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่ได้อย่างถูกต้อง
จินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยามาฮ่ารู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้แก่สมาชิกและครอบครัวสมาชิกของสรยท. ซึ่งที่ผ่านมายามาฮ่า ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ การขับขี่จักรยานยนต์ที่ถูกต้อง พร้อมกับการส่งเสริมความรู้เทคนิคต่างๆ ทางด้านการขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งได้ดำเนินงานก่อตั้ง สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มาตั้งแต่ ปี2550
ด้าน กรธัช แก่นจันทร์ดา ผู้จัดการทั่วไป สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เปิดเผยว่า สำหรับหลักสูตรการอบรมของสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีทั้งหมด 7 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ 2.หลักสูตรขับขี่ปลอดภัย 3.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 4.หลักสูตรอบรมครูฝึกขับขี่ปลอดภัย 5.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่ 6.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์มืออาชีพ และ 7.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับเด็ก ขณะที่กิจกรรม การอบรมให้แก่สมาชิกสมาคมฯ ในครั้งนี้เป็นหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย เพื่อเพิ่มทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกวิธีและปลอดภัยลดความสูญเสียทรัพย์สินและบุคลากรอันมีค่า ในหลักสูตรย่อย คือ หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยขั้นพื้นฐาน หรือ “Learn to ride program” การอบรมแบ่งเป็นภาคทฤษฎีช่วงเช้า เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รู้ถึงองค์ประกอบและหลักพื้นฐานการขับขี่ ส่วนภาคปฎิบัติช่วงบ่าย ตั้งแต่การปรับท่าทางการขับขี่ เทคนิคการขับขี่ การใช้เบรก การเข้าโค้ง การหยุด การจอด ฯลฯ ก่อนจะจบการอบรมด้วยการมอบประกาศนียบัตร ให้กับผู้เข้ารับอบรมทุกท่าน เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการขับขี่จักรยานยนต์ และนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนต่อไป