“Pure Magic” ผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ 2 แบรนด์พรีเมียม “ออกานิก้า X เจนสุดา”

“ออกานิก้า” ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีออร์แกนิคสุดพรีเมียม ร่วมกับ “เจนสุดา” แบรนด์เสื้อผ้ามีดีไซน์สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ สร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Pure Magic” (เพียว เมจิก) คอลเลคชั่นที่สะท้อนความทรงจำอันแสนบริสุทธิ์และงดงามให้หวนคืนมาอีกครั้งโดยเป็นการผสานความร่วมมือการทำงานระหว่าง คุณศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด ผู้ก่อตั้งและบริหารออกานิก้า และคุณเจนสุดา ปานโต ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์เจนสุดา

ศรีริต้า เจนเซ่น และ เจนสุดา ปานโต ร่วมกันถ่ายทอดที่มาของผลงานคอลเลคชั่น Pure Magic ว่าเริ่มต้นจากการที่คุณเจนซึ่งเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์ออกานิก้า ได้มีโอกาสไปใช้บริการที่ออกานิก้า เฮ้าส์ ซึ่งเนรมิตบรรยากาศให้ผ่อนคลายเสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ราวกับเป็นโอเอซิสกลางกรุง กระทั่งเมื่อคุณริต้าออกปากชวนว่าน่าจะทำอะไรร่วมกัน คุณเจนซึ่งกำลังออกแบบคอลเลคชั่นใหม่อยู่ในขณะนั้น จึงตกลงที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเป็นการจับคู่กันอย่างลงตัวระหว่างความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงของผลิตภัณฑ์ออกานิก้า และความเป็นผู้หญิงของแบรนด์เจนสุดาที่มีบุคลิกเป็นธรรมชาติและเป็นตัวของตัวเอง

ศรีริต้า เจนเซ่น เปิดเผยว่า ความพิเศษของคอลเลคชั่น Pure Magic คือการได้มาทำงานร่วมกันกับเจน ซึ่งเราเป็นเพื่อนกันมานานมาก ริต้าชอบที่เจนทำเสื้อผ้า แล้วใช้ลูกไม้มาเป็นองค์ประกอบในการตัดเย็บ ซึ่งมันลิงค์ได้กับกลิ่นของออกานิก้า โดยคอลเลคชั่นนี้สะท้อนถึงความบริสุทธิ์ และไร้เดียงสาของผู้หญิง เราจึงรวบรวมดอกไม้สีขาวหลากหลายชนิดมาสกัดเป็นกลิ่นหอม อาทิ ดอกซ่อนกลิ่น ดอกพุด ดอกมะลิ และดอกลีลาวดี ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมรัญจวนแต่ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกลึกลับและเปี่ยมด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล เริ่มต้นเมื่อได้กลิ่นในระดับ Top Note จะรู้สึกได้ถึงความหอมหวานเป็นธรรมชาติ จากนั้นระดับ Middle Note จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อบอุ่น กลมกลืนไปกับดอกไม้ทั้ง 4 ชนิด จวบจนกระทั่งในระดับ Lasting Note กลิ่นของความหอมนั้นจะนุ่มลึก และติดอยู่ในความทรงจำ ซึ่ง ริต้าเชื่อว่า พลังแห่งกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เราคัดสรรมาอย่างดีจะช่วยย้อนความรู้สึกที่งดงาม ทั้งความสุข และความรักในอดีตให้หวนคืนมาอีกครั้ง และไม่เพียงเท่านั้นทุกครั้งที่กลิ่นหอมของดอกไม้อันบริสุทธิ์กระทบกับประสาทสัมผัส ความรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลาย จะช่วยกระตุ้นให้เกิดจินตนาการและรำลึกถึงความทรงจำอันน่าประทับใจจนอยากจะสัมผัสกลิ่นหอมตลอดเวลา

สำหรับผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่น Pure Magic ประกอบด้วย ดิฟฟิวเซอร์, เทียนหอม, รูมเสปรย์ และ ครีมทามือและเล็บ ซึ่งเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถันจากวัตถุดิบออร์แกนิคสุดพรีเมียมจากทั่วโลก โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดได้รับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันกับเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นซึ่งมีการนำผ้าลูกไม้มาตัดเย็บอย่างสวยงามหรูหรา เปรียบได้กับหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานสง่างาม น่าค้นหา จึงเป็นความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบ ผู้หญิงของออกานิก้า มีความเป็นธรรมชาติ จริงใจ และบริสุทธิ์ รู้ว่าอะไรคือแก่นแท้ในชีวิต ค้นหาความจริง และคิดค้นสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอ คือมีแพชชั่นของความเพอร์เฟค หรือค้นหาสิ่งที่สมบูรณ์แบบให้กับตัวเอง” คุณศรีริต้า เผยถึงผู้หญิงในแบบฉบับของออกานิก้า

ขณะที่ เจนสุดา ดีไซเนอร์สาวคนเก่ง เปิดเผยว่า เจนรู้สึกว่าปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นมากมายจนแทบจะไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมหรือชื่นชอบกับอะไรจริงจังจึงเริ่มต้นคิดทำคอลเลคชั่นนี้เพื่อจะช่วยดึงหรือเก็บความทรงจำและประสบการณ์ดีๆ เหล่านั้นกลับมา เสื้อผ้าคอลเลคชั่น Pure Magic ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยคุณเจน เลือกถ่ายทอดความทรงจำที่แสนประทับใจโดยใช้สีขาวเป็นสีหลักในการเล่าเรื่อง เพราะสีขาวคือสีที่แทนความรู้สึก บริสุทธิ์ ความมหัศจรรย์ของประสบการณ์อันน่าประทับใจ โดยไม่ละทิ้งเทคนิคการตัดเย็บ ซิลูเอท (silhouette) ในแบบฉบับของแบรนด์เจนสุดาเอาไว้ นั่นก็คือการนำเชิงลูกไม้มาเย็บตัดต่อกันขึ้นมาเป็นเสื้อผ้าในลุคต่างๆ โดยมีการตัดเย็บที่ทำให้ลูกไม้ออกมาในแบบ 2D และ 3D ทั้งนี้ยังมีการใช้ลูกไม้ซึ่งมีลักษณะเหมือนถูกหนังสือทับเก็บไว้นานๆ ดั่งความทรงจำที่ไม่อยากให้ลบเลือนไป

เจนต้องการสร้างผู้หญิงคนนี้ ให้มีคาแรกเตอร์ เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ที่ไม่จำกัดบุคลิกว่าต้องหวาน หรือเปรี้ยว หรืออะไรก็ตามที่มีคำจำกัดความ คือเป็นอะไรก็ได้ในรูปแบบของตัวเอง เจนพยายามทำให้เสื้อผ้าของเจน เมื่อทุกคนสวมใส่แล้วดึงเอาบุคลิกของตัวเองให้เด่นกว่าเสื้อผ้า เจนเริ่มโฟกัส กับลูกไม้ โดยเอาเชิงลูกไม้ต่างๆ หลากหลายแบบทั้งจาก จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย มาผสมผสานซึ่งมีความยากในการทำออกมาเป็นซิลูเอท เพราะทุกตัว ทุกชิ้นที่ผลิต ขึ้นด้วยมือทั้งหมด หลายคนอาจไม่รู้ แต่จริงๆ มันมีความละเอียดของเนื้องานมาก

คอลเลคชั่นนี้จึงสมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิงทำงานยุคใหม่ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้หลายโอกาสในชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้ง 20 ลุค สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้กับทุกคอลเลคชั่น หรือ แอ็กเซสเซอรี่ อื่นๆ โดยเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บจะมีความพลิ้วไหว อาทิ ผ้าไหม ผ้าชีฟอง และผ้าลูกไม้ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวสมกับเป็นเสื้อผ้าของผู้หญิงในยุค 2017 ซึ่งสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับดีไซเนอร์อาจไม่ใช่เรื่องของการออกแบบหรือตัดเย็บ หากแต่จะทำอย่างไรให้ผู้หญิงที่สวมใส่รู้สึกชื่นชอบและรู้สึกดีกับตัวเอง ร่วมสัมผัสคอลเลคชั่น “Pure Magic” ได้แล้ววันนี้ โดยติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ #organikaxjanesuda #puremagiccollection และพบกับแบรนด์ “เจนสุดา” ได้ที่โซนไทยดีไซเนอร์ ชั้น 1 สาขาสยามพารากอน , ชั้น 2 ดิ เอ็มควอเทียร์ และ เอท ทองหล่อ