ปอร์เช่ เผยโฉม คาเยนน์ ใหม่ ที่ Zuffenhausen เมืองสตุ๊ทการ์ท การปรากฎตัวของหนึ่งในยอดยนตกรรมจากปอร์เช่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด พิสูจน์ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 760,000 คัน นับตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 2002 และแล้วความสมบูรณ์แบบแห่งวิวัฒนาการก็ได้เดินทางมาถึง รถยนต์สายพันธุ์แกร่งที่ก่อกำเนิดขึ้นจากการผสมผสานสมรรถนะการขับขี่ชั้นเลิศตามสไตล์ของปอร์เช่ ร่วมกับความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้งานเพื่อทุกวันของชีวิตเหนือระดับยิ่งกว่า ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมมากมาย แต่ยังสามารถลดน้ำหนักรวมของตัวรถให้เบากว่ารุ่นก่อนหน้าได้ถึง 65 กิโลกรัม ต้องยกความยอดเยี่ยมดังกล่าวให้กับโครงสร้างอัจฉริยะน้ำหนักเบาพิเศษ
เปิดตัวด้วย 2 รุ่นย่อยซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) ใน คาเยนน์ รุ่นมาตรฐานและร้อนแรงยิ่งขึ้นจากพละกำลังสูงสุดกว่า 440 แรงม้า (324 กิโลวัตต์) สำหรับ คาเยนน์ เอส โดย คาเยนน์ เอส สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 5 วินาที
ยนตกรรม SUV เจเนอเรชั่นที่ 3 จากปอร์เช่ ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่หมดจดในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบสมรรถนะสูง เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S ระบบตัวถังใหม่ และนวัตกรรมการควบคุมพร้อมแสดงผลด้วยหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง Porsche Advanced Cockpit ถึงพร้อมด้วยประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต
โดยยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลสะดวกสบายขณะโดยสารเดินทาง เปิดตัวในช่วงแรกด้วย 2 ทางเลือกจากเครื่องยนต์ 6 สูบใหม่ เริ่มต้นด้วย คาเยนน์ รุ่นมาตรฐาน ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) จากขุมพลังเทอร์โบขนาดความจุ 3.0 ลิตร เพิ่มขึ้นถึง 40 แรงม้า (29 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ตามด้วยเครื่องยนต์ V6 ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 2.9 ลิตร ในรุ่น คาเยนน์ เอส ทะยานทะลุพิกัดความเร็วสูงสุดกว่า 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากพละกำลังมหาศาลถึง 440 แรงม้า (324 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ สปอร์ต โครโน คาเยนน์ เอส ใหม่ สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 5 วินาที คาเยนน์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอาศัยบรรทัดฐานจากอัตลักษณ์ของรถสปอร์ตในตำนาน ปอร์เช่ 911:
นับเป็นครั้งแรก สำหรับการติดตั้งยางต่างขนาดและระบบช่วยเลี้ยวล้อหลังหรือ rear-axle steering ลงในรถยนต์ SUV ในส่วนของสมรรถนะการขับขี่บนทางเรียบ มั่นใจได้ในทุกจังหวะความเร็วจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ active all-wheel drive ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพร้อมรองรับทุกรูปแบบการขับขี่ด้วยระบบ Porsche 4D Chassis Control ระบบช่วงล่างถุงลมเทคโนโลยี three-chamber air suspension ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบ electronic roll stabilisation และนวัตกรรมระบบเบรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นล่าสุด Porsche Surface Coated Brake (PSCB)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ คาเยนน์ ใหม่ จะได้รับการเพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้น แต่กลับสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 65 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และเหนืออื่นใด คาเยนน์ ยังคงรักษาสมรรถนะในการบุกตะลุยเส้นทาง off-road เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นเดิม