คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วอลโว่เป็นแบรนด์รถพรีเมี่ยมที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูงมากในเมืองไทยด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสวีเดน รวมถึงนวัตกรรมความปลอดภัยอัจฉริยะระดับโลกที่มีอยู่ในรถวอลโว่รุ่นใหม่ๆ และที่สำคัญคือ วิสัยทัศน์ความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถแห่งอนาคตเพื่อโลกอย่างแท้จริง โดยเราเป็นผู้นำแบรนด์รถหรูรายแรกที่ออกมาประกาศว่าตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่ทุกคันจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ซึ่งวอลโว่ในทุกประเทศทั่วโลกพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์เดียวกันนี้
ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่วอลโว่ทั่วโลกประสบความสำเร็จกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวอลโว่ The All New Volvo XC90 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นยอดขาย XC90 T8 Twin Engine AWD เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมากกว่า 15% สะท้อนให้เห็นทิศทางตลาดโลกว่าผู้คนเริ่มหันมาให้ความนิยมกับรถพลังงานทางเลือกใหม่มากขึ้น มาจนถึงรถ พรีเมี่ยมซีดานหรูรุ่น S90 นับเป็นรถเรือธงรุ่นที่สองต่อจาก XC90 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายหลังจากเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2559 และล่าสุดเราพร้อมแนะนำ S90 T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ซึ่งเตรียมออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ วอลโว่มีความตั้งใจที่จะให้การมาของ S90 ครั้งนี้เป็นที่สนใจของตลาดเมืองไทยอีกครั้งในฐานะผู้นำแบรนด์รถหรูที่ออกมาประกาศจุดยืนเรื่องการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในวาระระดับโลกพร้อมทั้งขานรับนโยบายของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง และในขณะเดียวกันรถยนต์ S90 ได้ตั้งราคาได้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.09 ล้านบาท ซึ่งน่าจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่ชื่นชอบในรูปโฉมรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบบสวีเดนได้เป็นอย่างดี ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์วอลโว่ใหม่ทุกคันจะได้รับ Volvo Maintenance บริการบำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 3 ปี