บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นำเสนอความล้ำสมัยและเหนือระดับทั้งภาพลักษณ์และผลิตภัณฑ์ด้วยรถยนต์ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีหลากหลายรุ่น ให้ทุกคนได้สัมผัสในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-10 ธันวาคม 2560 รถยนต์ที่ได้นำมาจัดแสดงในงานมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น คือ รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได RN30 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไอออนิก และรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ และฮุนได เอช วัน
รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได อาร์เอ็น 30 ได้รับการแนะนำสู่สาธารณชนครั้งแรก ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ เดือนกันยายน 2559 เป็นรถยนต์ที่ถูกสรรสร้างขึ้น เพื่อสื่อถึงดีเอ็นเอของรถยนต์รหัส N ซึ่งเป็นรหัสที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงของแบรนด์ฮุนได รวมทั้งการพัฒนาที่เน้นถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก และเทคโนโลยีการลดน้ำหนัก เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจ รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได อาร์เอ็น 30 ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์ฮุนได รุ่น ไอ 30 โดยความร่วมมือระหว่างทีมงานฮุนได มอเตอร์สปอร์ต (Hyundai Motor Sport - HMSG), ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีฮุนไดภาคพื้นยุโรป (Hyundai Motor Europe Technical Center – HMETC) และหน่วยพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงและการพัฒนาเทคโนโลยีฮุนได (Hyundai Motor’s Performance Development & High Performance Vehicle Division)
แนวคิดการพัฒนาฮุนได อาร์เอ็น 30 ถูกเน้นในเรื่องความเร้าใจในการขับขี่ มีลักษณะการขับขี่ในแบบสปอร์ต เส้นสายภายนอกของฮุนได อาร์เอ็น 30 ถูกนำมาจากรถยนต์ฮุนได ไอ 30 ซึ่งเป็นเส้นสายที่มีความเรียบง่าย แต่ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของมิติตัวถัง รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได อาร์เอ็น 30 ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักตัวถังที่เบา มีความทนทานสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับบริษัทวิจัยและพัฒนาทางด้านเคมีชั้นนำของโลกจากประเทศเยอรมนีอย่าง BASF เครื่องยนต์ของฮุนได อาร์เอ็น 30 เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสูง โดยใช้เทอร์โบขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้ทันใจ แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 380 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 451 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่แบบเปียก นอกจากนี้ ระบบแปรผันวาล์วฝั่งไอเสีย ยังได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ฮุนได อาร์เอ็น 30 มีการตอบสนองด้านอัตราเร่งที่รวดเร็ว ทันใจ รวมถึงเสียงจากท่อไอเสียที่ดุดัน ให้ความรู้สึกสปอร์ตขณะขับขี่
รถยนต์ฮุนได ไอออนิก ได้รับการแนะนำสู่ตลาดครั้งแรก ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2559 เป็นรถยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลัก คือการสร้างรถยนต์ที่มีมลพิษที่ต่ำที่สุด หรือปราศจากมลพิษ สำหรับทุกๆคน และนับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลก ที่มีจำหน่ายในทั้ง 3 รูปแบบระบบขับเคลื่อนใน 1 รุ่น ได้แก่ ไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด และอีวี สำหรับรถยนต์รุ่นที่นำมาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34 นี้ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าฮุนได ไอออนิก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ ภายนอกได้รับการออกแบบโดยเน้นที่ปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ เทคโนโลยี และประสิทธิภาพ ทำให้มีบุคลิกของความเป็นรถยนต์แห่งอนาคต รูปทรงตัวรถเป็นแบบรถแฮ็ทช์แบ็กทรงสปอร์ต มาพร้อมเส้นสายที่พลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบตัวถังส่วนต่างๆ ที่ช่วยทำให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวรถได้อย่างสะดวกและลื่นไหลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.24 ภายในถูกออกแบบโดยเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต ด้วยแนวคิด ‘Purified High-Tech’ ที่เน้นถึงความเรียบง่าย ลื่นไหล แต่มีความปราณีต และใช้งานง่าย เน้นการใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด วัสดุภายใน เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ผ้าหลังคาและพรมที่มีส่วนผสมจากต้นอ้อย เพื่อช่วยให้อากาศภายในห้องโดยสาร มีความบริสุทธิ์, สีพ่นตัวถังที่มีส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อให้มีประกายของเม็ดสีที่สวยงาม, แผงประตูที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ผสมกับผงไม้และหินจากภูเขาไฟ แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงและคุณภาพที่ดี นอกจากนี้ บริเวณช่องแอร์, คอนโซลกลาง, พวงมาลัย และเบาะนั่ง ถูกตกแต่งด้วยสีส้มทองแดง ซึ่งเป็นสีที่เปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในรถยนต์ ได้แรงบันดาลใจจากทองแดงที่อยู่ในคอนดักเตอร์ของระบบไฟฟ้า ระบบเกียร์ ถูกออกแบบให้เป็นแบบระบบปุ่มกด หรือ shift by wire ซึ่งถูกติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งผู้ขับขี่ สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคมือไฟฟ้า และระบบ wireless charging ที่สามารถชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เพียงวางโทรศัพท์บริเวณช่องชาร์จด้านซ้ายของปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์ สำหรับระบบขับเคลื่อนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ฮุนได ไอออนิก นั้น เป็นการขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า (88kW) แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อผ่านระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง และสามารถพารถยนต์ไปที่ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน โพลิเมอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่ดี และมีหน่วยความจำรอบการชาร์จไฟที่น้อยกว่า เพื่อเทียบกับแบตเตอรี่แบบนิกเกิล เมทัล ไฮดราย สำหรับในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ฮุนได ไอออนิก นั้น เป็นแบตเตอรี่ขนาด 28 kWh ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที โดยประมาณ และการชาร์จไฟแบบ quick charge อยู่ที่ 30 นาทีโดยประมาณ ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 50 kW และ 23 นาทีโดยประมาณ ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 100 kW โดยแบตเตอรี่นี้ ถูกติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลัง แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ที่สามารถบรรจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 650 ลิตร ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง ด้วยระบบ Blind Spot Detection ที่จะทำหน้าที่ตรวจจับรถในจุดอับสายตาขณะขับขี่ โดยทำงานควบคู่กันกับระบบ Lane Change Assist ที่จะช่วยตรวจจับรถในเลนด้านข้างในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลน และยังทำงานร่วมกับระบบ Rear Cross Traffic Alert ในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังจะถอยรถออกจากที่จอดรถ ระบบจะตรวจจับความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆจากด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีระบบ Autonomous Emergency Braking System (AEB) ที่จะช่วยเบรกรถอัตโนมัติ ในกรณีที่ผู้ขับขี่ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองในขณะที่รถกำลังเข้าใกล้รถคันข้างหน้า หรือในกรณีที่คนเดินถนนเดินตัดผ่านหน้ารถในระยะกระชั้นชิด กล้องบริวเวณด้านบนกระจกบังลมหน้า และเรดาร์บริเวณกระจังหน้า จะทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน และจะสั่งการให้รถหยุดโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ฮุนได แกรนด์สตาร์เร็กซ์ และฮุนได เอช วัน พร้อมระบบช่วงล่างใหม่และโปรโมชั่นพิเศษในงาน นอกจากนี้ ภายในงาน ฮุนได ยังได้นำรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดในประเทศมาจัดแสดง ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษมากขึ้นด้วย ชุดอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผู้โดยสารทางด้านหลัง พร้อมด้วยชุดโช้คอัพและสปริงหลัง ทางเลือกเสริมที่จะเพิ่มความนุ่มนวลให้ทุกการเดินทางในรถยนต์อเนกประสงค์ทั้งสองรุ่น ลูกค้าที่สนใจสามารถทดลองนั่งเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ และเลือกติดตั้งกับตัวแทนจำหน่ายได้ทันที
โปรโมชั่นพิเศษในงาน มีรายละเอียดดังนี้
ฮุนได เอช-วัน ทุกรุ่น :
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
ฟรี คูปองบำรุงรักษารถยนต์ พร้อมค่าแรงและค่าอะไหล่ นาน 1 ปี (สำหรับลูกค้าที่จองระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 11 ธ.ค. 60)
ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ทุกรุ่น:
รับดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.99% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน หรือ รับเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ