ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ นุ่มหนึบกำลังดี ประหยัดมากขึ้น

รถเล็กมาแรงในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น All New Suzuki SWIFT 2018 หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ยอดจองเพียงสองสัปดาห์ ทะลุเป้าไปพันกว่าคันเกินเป้าที่คาดหมายไว้ ทำให้ วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยิ่งมั่นใจในผลิตภัณฑ์เกินร้อย ล่าสุดซูซูกิ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมสัมผัส All New Suzuki SWIFT 2018 อย่างเต็มเหนี่ยว ด้วยการจัดทดลองขับเส้นทางลัดเลาะ ขึ้นลง-เขา เพื่อรีดสมรรถนะ และพละกำลังอย่างเต็มที่



สำหรับ All New Suzuki Swift 2018 มาด้วยรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด ดีไซน์แนวสปอร์ตดูโฉบเฉี่ยวขึ้น เส้นสายชัดเจนขึ้น โครงสร้างตัวถังเป็นแพลตฟอร์มใหม่ Heartect เน้นความแข็งแกร่งมากขึ้น และมีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม Daytime Running Light ดูหรูหราและโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าดีไซน์แบบรังผึ้ง ดูสปอร์ตตัดด้วยเส้นสีแดงดูโดดเด่น ไฟหลังแบบ LED ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55R16 รองรับน้ำมันได้ถึง E20 สำหรับมิติตัวถังฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร ช่วงล้อหน้ากว้าง 1,520 มิลลิเมตร ล้อหลังกว้าง 1,525 มิลลิเมตร ความยาวตัวถัง 3,840 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,753 มิลลิเมตร ความสูง 1,495 มิลลิเมตร น้ำหนักโดยรวมของรถเบาลงกว่ารุ่นก่อน



ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ตกแต่งโทนสีดำแนวสปอร์ต ภายในห้องโดยสารออกแบบได้กว้างกว่ารุ่นก่อน พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ดีไซน์เป็นรูป D-Shape แนวรถแข่งและเพื่อเพิ่มพื้นที่ระหว่างขา เบาะนั่งปรับได้ 4  ทิศทาง ทั้งยังมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง Cruise Control รวมถึงมีปุ่มควบคุมโทรศัพท์และระบบสั่งงานด้วยเสียงมาให้ ช่องแอร์บริเวณกลางคอนโซลแบบวงกลมดูสปอร์ต มาตรวัดตกแต่งด้วยเส้นสีแดงพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ LCD เบาะนั่งดีไซน์ใหม่โอบรับสรีระกระชับลำตัว ในส่วนระบบความบันเทิงครบอรรถรส ทั้งยังมีระบบนำทาง พร้อมด้วย Apple Car Play (ในรุ่นท๊อป) สำหรับระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมติดตั้งถุงลมนิรภัยมากถึง 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงศีรษะทั้ง 3 ตำแหน่งปรับสูง-ต่ำได้ ส่วนห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาดใหญ่ถึง 58 ลิตร



เริ่มทดลองขับออกจากโรงแรม FLORA CREEK จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับเป็นทางขึ้น-ลงเขา พร้อมทั้งโค้งซ้ายและขวา สลับกัน มีทั้งโค้งกว้างโค้งแคบ เพื่อให้ได้รีดพละกำลังของซูซูกิ สวิฟท์ใหม่กันได้เต็มที่ สวิฟท์ใหม่มีระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวบนทางลาดชันไม่ต้องกลัวรถไหลอีกต่อไปอันนี้ถูกใจมือใหม่อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่น ส่วนของช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การติดตั้งระบบเบรกแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ (เฉพาะ GLX และ GLX-Navi) เช่นเดียวกับรถรุ่นใหญ่ ซึ่งถูกปรับเซ็ทมาใหม่ จากการทดลองขับพบว่าเข้าโค้งได้แม่นยำ ให้ความหนึบเกินคาด ผู้เขียนมีความเห็นว่าน้ำหนักของพวงมาลัยค่อนข้างเบาแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการขับขี่ ในส่วนของน้ำหนักพวงมาลัยความเบาจะให้ผลดีเมื่อขับในเมืองรถติด ต้องเลี้ยวเยอะ ส่งผลให้การหมุนพวงมาลัยทำได้อย่างง่าย ผสานกับวงเลี้ยวที่แคบของสวิฟท์ใหม่ ทำให้กลับรถหรือหักเลี้ยวในเมืองทำได้อย่างง่ายดาย แต่ที่กล่าวไปว่าน้ำหนักของพวงมาลัยค่อนข้างเบา หากขับขี่ใช้ความเร็วสูงขึ้น ผู้ขับจะต้องใช้การควบคุมเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อได้ทำความคุ้นเคยกับตัวรถสักพัก น้ำหนักของพวงมาลัยไม่เป็นปัญหา   สำหรับอัตราเร่งช่วงทางขึ้นเขา ถือว่าทำได้ดีเกินคาดสำหรับเครื่องขนาด 1.2 ลิตร ในช่วงเร่งแซงทำได้พอตัว อาจจะไม่ปรี๊ดปร๊าดตามใจสั่ง แต่ทั้งนี้ผู้ขับต้องเข้าใจว่ากำลังขับรถเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังเพียง 1.2 ลิตรอยู่ แต่ถ้าให้เทียบซูซูกิ สวิฟท์ใหม่ กับรถรุ่นอื่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เจ้าซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ คันนี้เอาชนะได้อย่างสบาย



เมื่อได้ทดลองขับช่วงทางตรง ขุมพลังเบนซิน K12M 4 สูบ DOHC ขนาด 1.2 ลิตร Dual Jet  ให้กำลังแรงม้า 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที (หากเทียบกับรุ่นก่อน แรงม้าในซูซูกิสวิฟท์ใหม่ จะลดลงนิดหน่อย) พละกำลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร Dual Jet  ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ทำงานได้อย่างลงตัวตอบสนองได้รวดเร็ว ทำให้ซูซูกิสวิฟท์ใหม่ เป็นรถที่ขับสนุก ทั้งยังให้พละกำลังที่ลื่นไหลและต่อเนื่อง ในส่วนของเกียร์ธรรมดาทางผู้บริหารแจ้งว่าต้องดูความต้องการของตลาด ส่วนความเร็วทางซูซูกิเคลมมาว่าได้ถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ่งที่เห็นได้ชัดในรุ่นนี้คือความประหยัด สวิฟท์ใหม่มีระบบ IdIing Stop ช่วยเรื่องการประหยัดได้ดีทีเดียว และจากการทดลองขับเส้นทางเป็นภูเขาต้องใช้พละกำลังตลอดเวลา และการขับขี่ส่วนใหญ่จะกดคันเร่งแบบคิกดาวน์ซึ่งการกดคันเร่งแบบนี้ จะทำให้เกินการสิ้นเปลืองน้ำมัน เมื่อดูที่ตำแหน่งน้ำมันปรากฏว่าแทบไม่ลดลงเลย โดยทางซูซูกิเคลมตัวเลขมาถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตร



สรุป ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอก ภายใน ดูสปอร์ตและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ทำให้รถคันนี้ขับสนุก ควบคุมง่าย ผสานระบบช่วงล่างและเกียร์ที่ออกแบบได้อย่างลงตัว ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจ นุ่มนวลมากขึ้นและยังคงความหนึบ  ส่วนของตัวรถมีขนาดกะทัดรัดให้ความคล่องตัวอย่างมากเมื่ออยู่ในเมือง จะเลี้ยว กลับรถ เข้าที่จอด ทำได้คล่องแคล่วและคล่องตัว นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยมาให้อย่างครบครัน ซึ่งซูซูกิ สวิฟท์ใหม่ เป็นอีโคคาร์ที่น่าสนใจ สำหรับ ซูซูกิ สวิฟท์ 2018 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 499,000 – 629,000 บาท ซูซูกิร่วมมือกับสถาบันการเงินจัดโปรแกรม My Way ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,999 บาท ต่อเดือน และแคมเปญพิเศษ Loyalty Program สำหรับลูกค้า SWIFT เพียงนำ SWIFT คันเดิมมาเปลี่ยนเป็น SWIFT ใหม่ รับทันทีส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง 20,000 บาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้