ผ่านพ้นไปอย่างสุดมันส์ กับ ศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ที่ระเบิดความมันส์ ในแทรคสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 12-13 พค. ที่ผ่านมา โดยแชมป์รุ่นใหญ่เป็นของ แพ็ตทริค เนียเดอเฮาเซอร์ นักขับชิลีจับคู่ทีมเมทชาวเยอรมันอย่าง มาร์คัส พอมเมอร์ จาก กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ขณะทีมแข่งไทยผลงานเยี่ยมในคลาสเล็ก ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา และ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ได้ขึ้นโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลกรายการ บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 ดวลความเร็วเรซแรกของสนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ที่แฟนความเร็วชาวไทยได้ชมแบบติดขอบสนามในเมืองไทย การแข่งขัน บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย จะดวลความเร็วสองเรซในแต่ละสนามที่เดินทางไปแข่งขัน โดยแต่ละเรซจะใช้เวลาทั้งสิ้น 60 นาที มีนักขับแต่ละคันจำนวน 2 คน โดยเรซแรกออกสตาร์ทในเวลา 14.30 น. ของวันเสาร์ที่ 12 พ.ค.นี้ และจบเรซในเวลา 15.30 น.
การแข่งขันในกริดสตาร์ทเรซนี้เป็นของยอดทีมแข่งจาก ฮ่องกง อย่าง กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ด้วยรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 ขับโดย แพ็ตทริค เนียเดอเฮาเซอร์ นักขับชิลีจับคู่ทีมเมทชาวเยอรมันอย่าง มาร์คัส พอมเมอร์ ขนาบข้างด้วยรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 27 จากทีม ฮับออโต้ คอร์ซ่า ที่ขับโดย ฮงหลี ยี นักขับจีน และ นิค ฟอสเตอร์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ส่วนนักขับไทยอย่าง แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ภายใต้รถแข่ง ปอร์เช่ จีที3อาร์ หมายเลข 911 จากทีม คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง จับคู่ เช เดวีส์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 14 ออกสตาร์ทเรซด้วยการทะยานขึ้นนำของรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 เจ้าของโพลโพซิชั่นที่ขับไม้แรกโดย เนียเดอเฮาเซอร์ โดยยอดนักขับชิลีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งทางแรกของการแข่งขัน ทว่าในการเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับกลายเป็นรกแข่งลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3 หมายเลข 19 จาก เอฟเอฟเอฟ เรซซิ่ง ทีม บาย เอซีเอ็ม ที่ไล่บี้ตลอดทั้งเรซแซงขึ้นนำได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี มาร์ติน โคดริช นักขับโครแอทที่ออกนำในช่วง 8 นาทีสุดท้ายกลับต้องโดนลงโทษ สต็อป แอนด์ โก ในพิตเลน ส่งผลให้เสียตำแหน่งผู้นำกลับคืนให้ รถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 ที่ขับโดย พอมเมอร์ นักขับคนที่สองขยับขึ้นนำและเข้าป้ายเป็นคันแรกคว้าแชมป์ในรุ่นจีที 3 เรซแรกที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ไปครอง ส่วนอันดับ 2 เป็นของรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 27 จากทีม ฮับออโต้ คอร์ซ่า ที่ขับโดย ฮงหลี ยี นักขับจีน และ นิค ฟอสเตอร์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ตามหลังแชมป์เพียง 1.432 วินาที ตามด้วย รถแข่ง เอาดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 หมายเลข 3 ขับโดย มาร์ติน รัมป์ นักขับเอสโตเนีย และ แฟรงกี้ เฉิง นักขับฮ่องกง ตามหลังแชมป์ 19.806 วินาที ด้าน แซนดี้ จับคู่กับ เดวีส์ ทำผลงานได้ดีภายใต้รถแข่ง ปอร์เช่ 911 จีที3อาร์ ที่เป็นรองในช่วงทางตรงอย่างมาก ออกสตาร์ทจากกริดที่ 14 ขยับขึ้นมา 3 อันดับ เข้าเส้นชัยเป็นคันที่ 11 ตามหลังแชมป์ 52.128 วินาที
ขณะที่ผลการแข่งขันในรุ่น จีที4 แชมป์ตกเป็นของรถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที4 หมายเลข 666 ขับโดย ไรน์โฮลด์ เรนเจอร์ นักขับเยอรมัน ตามด้วย รถแข่งปอร์เช่ เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต เอ็มอาร์ หมายเลข 77 จากทีม คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง ขับโดย แฟรงค์ ยู นักขับ ฮ่องกง และ ฌอง มาร์ค เมอร์แลง นักขับฝรั่งเศส ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของทีมแข่งจากไทยอย่าง เจดับบลิวดี-ยูนิกซ์ เรซซิ่ง ทีม ภายใต้รถแข่ง ปอร์เช่ เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต เอ็มอาร์ หมายเลข 22 ขับโดย ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา และ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ได้ขึ้นโพเดี้ยมในคลาสนี้ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
ตลอดทั้ง 2 วันของการแข่งขันมีแฟนความเร็ว เข้าชมการแข่งขันจนเต็มแกรนด์สแตนด์ รวมทั้ง 2 วันมีผู้ชมทั้งสิ้น 26,255 คน ทำให้กิจกรรมต่างๆ มีความคึกคักอย่างมาก เรซ 2 ของ บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ออกสตาร์ทเรซในเวลา 13.00 น. ในวันอาทิตย์ โดยตำแหน่งโพลเป็นของรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 888 จาก กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ขับโดยคู่หูชาวเยอรมันอย่าง อเล็กซานเดอร์ แม็ตชูลล์ และ แม็กซิมิลัน เบิห์ก ขนาบข้างด้วยรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 28 จาก ฮับออโต้ คอร์ซ่า ขับโดย ฮงหลี ยี นักขับจีน และ นิค ฟอสเตอร์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ส่วนนักขับไทยอย่าง แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ภายใต้รถแข่ง ปอร์เช่ จีที3อาร์ หมายเลข 911 จากทีม คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง จับคู่ เช เดวีส์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 14
ผลการแข่งขันในเรซนี้ค่อนข้างแบเบอร์ เมื่อ เบิห์ก ออกสตาร์ทด้วยการควบรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ก่อนส่งต่อให้ แม็ตชูลล์ ทีมเมททำหน้าที่ต่อขับนำม้วนเดียวจบ คว้าชัยชนะเรซ 2 ไปครองอย่างสุดมันส์ในเวลา 1 ชั่วโมง แข่งขันได้ 37 รอบสนาม ส่วนอันดับ 2 เป็นของรถแข่งลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3 หมายเลข 19 จาก เอฟเอฟเอฟ เรซซิ่ง ทีม บาย เอซีเอ็ม ขับโดย เดนนิส ลินด์ นักขับฮ่องกง และ มาร์ติน โคดริช นักขับโครแอท ตามหลังแชมป์ 3.777 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของรถแข่งนิสสัน จีที-อาร์ นิสโม จีที3 หมายเลข 23 จากทีม เคซีเอ็มจี ขับโดยเอดูอาร์โด ลิเบราติ นักขับอิตาเลียน และฟลอร์ลัน สเตราส์ นักขับเยอรมัน ตามหลังแชมป์ 24.827 วินาที ด้าน แซนดี้ สตูวิค จับคู่กับ เช เดวีส์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเรซ 2 โดยช่วงแรก เดวีส์ รับหน้าที่เป็นนักขับคนแรกออกสตาร์ทได้ดี และส่งต่อให้ แซนดี้ หลังผ่านกลางเรซ ก่อนที่นักขับไทยจะค่อยๆ แซงคู่แข่งขึ้นมาหลายอันดับ เข้าป้ายในอันดับ 8 ตามหลังแชมป์ 37.821 วินาที จบเรซด้วยอันดับท็อปเท็นต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
สำหรับผลการแข่งขันในรุ่น จีที4 แชมป์ตกเป็นของ รถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที4 หมายเลข 666 ขับโดย ไรน์โฮลด์ เรนเจอร์ นักขับเยอรมัน ที่คว้าชัยชนะไปครองทั้งสองเรซที่บุรีรัมย์ ตามด้วย รถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที4 หมายเลข 666 หมายเลข 72 จาก ทีม ไอเรซ วิน ขับโดย ริงโก้ ฉง นักขับสิงคโปร์ และ จิลส์ วองเลต์ นักขับฝรั่งเศส ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รถแข่งบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 จีที4 หมายเลข 82 จากทีรม บีเอ็มดับเบิลยู ทีม สตูดี้ ขับโดย เคน อูราตะ นักขับญี่ปุ่น และทีมเมทชาวไทเปอย่าง แม็กซ์ เฉิน
ทั้งนี้ สนามถัดไปของศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-1 กรกฎาคมนี้ ที่สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น