ฉลองครบ 20 ปี โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง พร้อมอัดแคมเปญใหญ่ ดันยอดขายทะลุ 900 ล้านตามเป้า

โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ฉลองครบรอบ 20 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำผู้นำอันดับ 1 ธุรกิจไมโครบริวเวอรี่เมืองไทย พร้อมจับมือพันธมิตรจัดหนักแคมเปญฉลองต่อเนื่อง หวังดันยอดขายเพิ่มขึ้น 10% มุ่งพัฒนายุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และบริการ สร้าง รอยัลตี้แบรนด์มัดใจผู้บริโภค




สุพจน์  ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาของการทำธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ มา 20 ปี โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้มอบความสุข ความสนุกสนาน ความอบอุ่นและเป็นกันเองให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทั้ง 3 สาขา ได้แก่ พระราม 3, รามอินทรา และแจ้งวัฒนะ โดยมีทั้งลักษณะสังสรรค์กับครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง รวมถึงการจัดเลี้ยง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีลูกค้าใช้บริการทั้งปี รวม 3 สาขา จำนวน 8.5 แสนคน สัดส่วนสาขาที่มากที่สุดคือพระราม 3  ราว 38% รามอินทรา 36% และแจ้งวัฒนะ 26%




“ภาพรวมเราเชื่อว่าเราเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ในประเภทธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ ซึ่งลูกค้าต่างชาติที่อยู่เมืองไทย มากกว่า 50 % รู้จักร้านเรา และในแง่นักท่องเที่ยว ก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนตามไกด์บุ๊คต่างๆ ปัจจุบันนี้ ผมไม่กล้าพูดว่าเราไม่มีคู่แข่ง แต่ไมโครบริวเวอรี่ที่มีมาก่อนโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ก็ไม่เห็นว่าเหลือใครอีกแล้ว ส่วนกลุ่มที่เดินตามแล้วพยายามลอกเลียนแบบเรา ก็ไม่เห็นว่าเหลือใครอีกเช่นกัน คู่แข่งที่สำคัญคือตัวเราเอง ที่ต้องขยัน มุ่งมั่นในการบำรุงรักษาและพัฒนา ในแง่ของการเติบโต 20 ปีที่ผ่านมา ยอดขายเราโตขึ้น โดยวัดตามอัตราการบริโภคต่อหัวที่เพิ่มขึ้น จากเดิมช่วงเปิดใหม่ๆ จะอยู่ที่ 300 แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 700-800 บาทต่อหัว อาจเพราะราคาสินค้า ค่าครองชีพต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามยุคสมัย ในแง่ยอดขายเมื่ออัตราบริโภคต่อหัวสูงขึ้น ก็ทำรายได้ให้เราสูงขึ้น ผมหวังเพียงว่าให้โตสัก 10% ต่อปี ปัจจุบันยอดขายรวมของเรา 800 ล้าน  เราคิดว่าจะเติบโตได้สัก 900 ล้านบาทภายในปีนี้




สำหรับปัจจัยที่จะทำให้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เดินหน้าตามเป้า คือการพัฒนา 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และ บริการ โดยสุพจน์เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เพิ่มเบียร์ตัวใหม่ขึ้นมาอีก 2 รสชาติ ได้แก่ โรเซ่ หรือเบียร์สีกุหลาบที่เหมาะกับผู้หญิง และฮอปส์บอมบ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่าไอพีเอ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นและหอมกลิ่นฮ็อพ นอกเหนือจากเบียร์ 3 รสชาติหลักที่ถูกปากคนไทย ได้แก่ ลาเกอร์  ดุงเกล  ไวเซ่น ในขณะที่อาหาร ได้จัดให้มีแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ PD เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยใหม่ๆ ทุก 3 เดือน ภายใต้โจทย์ของความอร่อย นำเสนอในรูปแบบทันสมัยตอบรับกับคนยุคใหม่ พร้อมเพิ่มแผนกขนมหวาน และยังมีครัวกลางที่จะเป็นศูนย์กลางในการสั่งซื้อและคัดเลือกวัตถุดิบ  รวมถึงการผลิตน้ำซอส อาทิ น้ำปลานึ่งมะนาว น้ำแกงส้ม น้ำต้มยำ น้ำเกาเหลาเย็นตาโฟ และน้ำจิ้มต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยได้มาตรฐานส่งตรงถึงครัวของทุกสาขา ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ยังคงขายดีติดอันดับได้แก่ ขาหมูทอดตะวันแดง ปลากะพงทอดน้ำปลา กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เกาเหลาเย็นตาโฟ และส้มตำไหลบัว เป็นต้น นอกจากนี้การเปิดซูชิบาร์สำหรับคนรักอาหารญี่ปุ่น อิ่มอร่อยกับ ยูเยเกะซูชิบาร์ เพื่อให้บริการเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับแท้ๆ โดยรับรองเรื่องความสดและอร่อยของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี โดยเฉพาะปลาสดๆ เป็นตัวๆ ที่ต้องสั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ยังได้รับความนิยมอย่างมาก คิดเป็นร้อยละ 15 ของรายได้จากอาหารทั้งหมด




ส่วนในด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้พัฒนารูปแบบการนำเสนอ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มสีสันของโชว์ให้มีความวิจิตร ตระการตา และน่าสนใจมากขึ้น อาทิ การทำแม็ปปิ้ง และการสร้างสรรค์เนื้อหาในรูปแบบของซีรียส์ หรือละครเพลงไทยสั้นๆ ภายใต้การดูแลของ อ.บรูซ แกสตัน ซึ่งโรงเบียร์แต่ละสาขาจะมีทิศทางการพัฒนาตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยสุพจน์ ย้ำว่า โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง มีความแข็งแรงในด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ลูกค้าไม่สามารถหาความบันเทิงแบบโรงเบียร์ได้จากที่อื่น พร้อมเสริมทัพด้วยการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินดังของเมืองไทยในทุกๆ เดือน เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นแฟนคลับของศิลปินให้เข้าถึงและรู้จักโรงเบียร์มากยิ่งขึ้น  ปิดท้ายกับยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ การบริการ ที่มีการจัดทำหลักสูตรอบรมและเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่น สนุกสนาน และเป็นกันเอง โดยตลอด 20 ปีของการทำธุรกิจ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้สะสมองค์ความรู้เหล่านี้ จนสามารถพัฒนายุทธศาสตร์ให้ครองใจลูกค้าและยืนหยัดอยู่ในธุรกิจได้อย่างสง่างาม 




นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 20 ปี  โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้จับมือกับพันธมิตร บัตรเครดิตเคทีซี จัดแคมเปญใหญ่ “กินเที่ยวเรื่องเดียวกันกับบัตรเครดิต KTC”  ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 ก.ค.ศกนี้ โดยมอบความพิเศษแบบ 2 ต่อคือต่อที่ 1 ส่วนลด 10% ต่อที่ 2 คือ ลุ้นแพคเกจทัวร์เที่ยวเทศกาลเบียร์ประจำปีที่โด่งดังที่สุดในโลก OKTOBERFEST 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 กันยายน- 6 ตุลาคมศกนี้ ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี จำนวน 2 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 216,000 บาท รวมมูลค่า 432,000 บาท   


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้