บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แคมปัส โรดโชว์ 2020 ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) โดยมีนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลงทะเบียนสมัครงาน หรือ ฝึกงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทยานยนต์ชั้นนำของประเทศด้วย กิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 และจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ รวม 5 แห่ง
ทั้งนี้ ผู้บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย นายเอกอธิ รัตนอารี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศและบริการหลังการขาย และ นายจารุกร เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวางแผนผลิตภัณฑ์ ได้ร่วมกิจกรรมพร้อมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ แก่นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้เกียรติร่วมชมนิทรรศการด้วย
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญด้านการศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ จึงได้จัดกิจกรรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แคมปัส โรดโชว์ ที่สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้นำเสนอเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ที่มาพร้อมกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้รับความรู้ และสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับเทคโนโลยีนี้ด้วยตนเอง
สำหรับเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภาษาญี่ปุ่น “เดน” หมายถึง “ไฟฟ้า” และ “โด” หมายถึง “การขับขี่” เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือ ชุดระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับที่พักอาศัย ประกอบด้วย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบเทคโนโลยี Vehicle-to-Home หรือ V2H ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการจ่ายและรับกระแสไฟฟ้าระหว่างยานพาหนะและที่พักอาศัย แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัย โดยระบบ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ นำไปชาร์จ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และในทางกลับกันยังสามารถดึงพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถ เพื่อนำไปใช้ในที่พักอาศัย เทคโนโลยีดังกล่าวจึงช่วยลดการบริโภคพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และยังใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย