บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มต้นโครงการ IMV ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Innovative International Multi-purpose Vehicle” เมื่อปี พ.ศ.2547 โดยเป็นการย้ายฐานการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ห้องโดยสารกว้างขวาง สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน เป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการใช้งาน ทนทาน อัตราการดูแลรักษาต่ำ และรองรับทุกรูปแบบการใช้งานตั้งแต่ กระบะบรรทุกมาตรฐาน - สมาร์ทแค็บ - ดับเบิ้ลแค็บ รวมไปถึงรถอเนกประสงค์อย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ส่งผลให้รถทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเป็นรถยอดนิยมของคนไทย โดยมีลูกค้าครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว รวมทั้งสิ้นกว่า 2.6 ล้านคัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมของโครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547 – พฤษภาคม 2563)
มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า สำหรับโตโยต้า ไฮลักซ์ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้โครงการ IMV ซึ่งมียอดขายสะสมกว่า 2.6 ล้านคัน โดยในปี 2562 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ และโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ยังคงมียอดขายเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะ Pure Pick-up 38.3% และส่วนแบ่งการตลาดรถ PPV 43.4% ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตและศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยแต่งตั้ง ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยคนไทย อีกทั้งยังประกอบขึ้นด้วยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังทั่วโลกโดยคนไทย
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ พลังแกร่งเหนือนิยาม รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งในทุกมิติ แต่ยังแฝงความล้ำสมัย มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เพิ่มความโดดเด่น ในยามค่ำคืน รูปลักษณ์ภายใน เพิ่มความล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัส และมาตรวัดดีไซน์ใหม่ สำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และความพรีเมียมแล้วนั้น ยังเพิ่มความสุด Exclusive ให้มากยิ่งขึ้นด้วย การออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Rocco ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน นอกเหนือจากนี้ ภายในห้องโดยสาร ที่ตกแต่งให้สอดรับกับการออกแบบภายนอก ที่แข็งแกร่ง และดุดัน พร้อมยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษ และไฟส่องสว่างภายใน
ช่วงล่างที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพและเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น เสมือนนั่งรถ SUV ระดับหรู โดยที่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านความแกร่งทนทาน และอัตราการรับนํ้าหนักได้ดีเช่นเดิม ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด , หน้าจอ TFT แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่ , ปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในเครื่องยนต์ 2.8 และ 2.4 ลิตร เพิ่มความประหยัดเป็นเลิศ , ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ , หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อม T-Connect ระบบเชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดไว้มากมาย อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักในการสื่อสาร "พลังแกร่งเหนือนิยาม” หรือ “THE UNBEATABLE” โดยสื่อถึงสมรรถนะพลังของเครื่อง GD Super Power ใหม่ ที่ดุดัน เร้าใจ ที่มาพร้อมความแกร่งเกินนิยาม คือ ทั้งแข็งแรง หนักแน่น แต่ก็นุ่มนวลได้อย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมด้วยช่วงล่าง Super Flex Suspension ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของคนไทย ที่มีความเป็นนักสู้ที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแม้ต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหนก็พร้อมจะฝ่าฟัน สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและทำให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ทุกครั้ง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกกลุ่มอาชีพ โดยเราได้กำหนดแนวทางการสื่อสารในครั้งนี้ ให้สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และบุคลิกของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน (B-Cab) เหมาะสำหรับใช้งานบรรทุกหนักเป็นหลัก , โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น Z-edition สำหรับรถกระบะตัวเตี้ย มีความหลากหลายในการใช้งาน ที่เหมาะสำหรับทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน หรือทำธุรกิจ งานบรรทุก การค้าขายปลีก-ส่ง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน , โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นยกสูง (Pre-runner) ถือได้ว่าเป็นรถกระบะยอดนิยมของคนไทย สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่อเนกประสงค์ และสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง , โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ Rocco และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ใช้งาน ในเมือง เน้นความสง่างาม ชื่นชอบกิจกรรมในยามว่าง และมีงานอดิเรก ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย
สำหรับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ Wisdom of a Leader การออกแบบ รุ่นมาตรฐาน รูปลักษณ์ภายนอก ที่ปรับดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งให้กับตัวรถ ดูหรูหรา บึกบึนมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding เพิ่มความโดดเด่นในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังปรับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ให้รับกับตัวรถ รุ่นพิเศษ ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Legender” ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน คำนึงถึงความสวยงามของเส้นสายที่ดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ด้วยสัดส่วนกระจังหน้าที่แตกต่าง เพิ่มความทันสมัยด้วย ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED พร้อมปรับดีไซน์กันชนหลังใหม่ให้สอดรับกับดีไซน์ด้านหน้าอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนลายล้ออัลลอย 20 นิ้วเป็นดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับหลังคาทูโทน ให้ความโดดเด่น ยกระดับการเป็น Flagship Model สะท้อนภาพลักษณ์สปอร์ตระดับผู้นำ ดีไซน์หรูหรา แบบ Sport Premium PPV” ความสะดวกสบาย 1. หน้าจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อมระบบ T-Connect ที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว 2. กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ เพิ่มทัศนวิสัย และให้ความปลอดภัยสูงสุด 3. สัญญาณเตือนกะระยะ หรือ Park Sensor ให้ทุกการจอดง่ายสำหรับคุณ 4. ระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ 5. แท่นชาร์จไร้สาย เพื่อตอบสนองการใช้งานในปัจจุบัน
เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น เพิ่มเพลาปรับสมดุล ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อบนหน้าจอ MID และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างขณะขับขี่ เพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ Sport Mode เพื่อช่วยให้การขับขี่ของคุณสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น และปรับการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนักมากขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง ความปลอดภัย (Safety) – ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถอเนกประสงค์ PPV ของโตโยต้า ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดไว้มากมาย อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Cruise Control) และ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น ด้วยดีไซน์ใหม่และฟังค์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอายุ ที่มีวิสัยทัศน์ และมองหารถที่สะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำ มีองค์ประกอบที่โดดเด่นในทุกมิติ พร้อมลุยไปได้ทุกที่ และสำคัญที่สุดคือ ความคุ้มค่าของรถ จะถูกแนะนำ 2 รุ่นด้วยกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าโตโยต้า คือ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว มองหารถที่ใหญ่ขึ้น และให้ความสำคัญด้านความคุ้มค่า โดยรุ่นมาตรฐานนี้ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามความเร็ว ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control และสัญญาณกะระยะ 6 ตำแหน่ง ที่จะช่วยคุณขับขี่ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Apple Carplay ที่จะเชื่อมต่อคุณและความบันเทิงได้อย่างอิสระ
ส่วน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นพิเศษ สะท้อนสัญลักษณ์ตัวตนของผู้นำ จะใช้ชื่อว่า Toyota Fortuner Legender เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองหารถที่โดดเด่นด้านรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย โดยโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มาพร้อมกับดีไซน์ที่ออกแบบให้หรูหรา และยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ และเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ด้วยกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และฟังก์ชัน Sport Mode ที่จะทำให้การขับขี่สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่ม Balance shaft ที่จะช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร กล้องมองรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ปลอดภัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันด้วย แท่นชาร์ไฟแบบไร้สาย และ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor และยังเป็นครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม 40 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี (สีใหม่ 3 สี) ราคา ไฮลักซ์ รีโว่ Rocco มี 4 รุ่น ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท ไฮลักซ์ รีโว่ แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 5 รุ่น ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner มี 12 รุ่น ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท ไฮลักซ์รีโว่ Z-Edition มี 12 รุ่น ราคา 609,000 – 809,000 บาท ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ทุกคัน จะได้รับแคมเปญช่วงแนะนำ และแพ็คเกจการรับประกันคุณภาพ เพิ่มเติมเป็น 5 ปี 150,000 กม. พร้อมค่าแรงเช็กระยะฟรีไปจนถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพิ่มเติมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 3 สี ราคา 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี ราคา 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะได้รับแพ็คเกจรับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000 กม. และขยายค่าแรงเช็กระยะฟรี จนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 45,000 บาท พิเศษวันนี้ ถึง 30 กันยายนเท่านั้น