บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ตอกย้ำความเป็นไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ที่ได้รับการพัฒนาดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำตลอด 10 เจเนอเรชันที่ผ่านมา ครั้งนี้ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 11 พร้อมแล้วที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์อีกครั้ง ด้วยดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมอง เสริมความโฉบเฉี่ยวเร้าใจด้วยรุ่น RS ดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟสไตล์สปอร์ตที่ตกแต่งพิเศษด้วยโทนสีดำรอบคัน พร้อมปลอกท่อไอเสียคู่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ถึง 3 โหมด นอกจากนี้ ในทุกรุ่นย่อย ให้ความแรงทรงพลังเร้าใจเกินใคร ด้วยเครื่องยนต์ VTEC TURBO 1.5 ลิตร ใหม่ พร้อมระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 17.2 กม./ลิตร ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 และมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ยกระดับไปอีกขั้นกับระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN) สะดวกสบายแบบเหนือกว่ากับครั้งแรกของระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย โดยพร้อมให้สัมผัสได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้น 964,900 บาท
มาซายูคิ อิงาราชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้า ซีวิค เป็นยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ตลอดเวลาเกือบ 50 ปี ได้รับการพัฒนาและสร้างมาตรฐานใหม่มาอย่างต่อเนื่องในทุกเจเนอเรชัน โดยได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายมากกว่า 27 ล้านคัน ในมากกว่า 170 ประเทศ และวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกทวีปอเมริกาเหนือที่จะเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียอีกด้วย
โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้า ซีวิค ถือเป็นไอคอนของรถซีดานที่เติบโตคู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตลอด 37 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมทั้งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ ด้วยยอดขายสะสมเกือบ 600,000 คัน ด้วยดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะการขับขี่ อีกทั้งครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ส่งผลให้ล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค สามารถครองอันดับ 1 ในเซกเมนต์ถึง 5 ปีซ้อน และในวันนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 จะเข้ามายกระดับคอมแพคท์ซีดานให้เหนือกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมาอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตพรีเมียม ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันด้วยขุมพลัง VTEC TURBO พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่จะมาสร้างตำนานบทใหม่ ให้สมกับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ทุกคนรอคอย
ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 11 มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน หรูหราในทุกมุมมองด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียแบบคู่ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ยกระดับความสปอร์ตในรุ่น RS ด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต และสะกดทุกสายตาด้วย สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม มาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย พร้อมเชื่อมต่อคุณและรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่หลากหลาย สำหรับรุ่น RS อาทิ ใหม่ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ดีไซน์เรียบหรู พกพาสะดวก ให้คุณล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เป็นต้น สำหรับรุ่น EL+ และ EL อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
แรงทรงพลังที่มอบความเร้าใจเกินใครกับ ขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศ เข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode - Normal Mode - Sport Mode (เฉพาะรุ่น RS) ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 1,199,900 บาท รุ่น EL+ ราคา 1,009,900 บาท รุ่น EL ราคา 964,900 บาท