เสียงกรีดจากกิ่งไม้ที่ขูดตัวถังรถ ดังอยู่ตลอดเวลาที่ขับ ทำเอาคนในรถ “ซี๊ดซ้าด” ตลอดทาง เพราะถ้าเป็นรถตัวเองจะไม่เอามาแน่นอน มิตซูบิชิจัดหนักนำ Mitsubishi TRITON ATHLETE ใหม่ ให้สื่อมวลชนขับลุยเข้าป่า ผ่านเส้นทางธรรมชาติ
แน่นอนว่า เส้นทางขึ้นดอยสอยมาลัยมีทั้งทางฝุ่น ทางขรุขระ หินลอย และลำธารเล็กๆ เป็นอุปสรรคที่ต้องพบเจอในทางออฟโรด “ดอยสอยมาลัย” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หลังคาเมืองตาก” ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น อ.บ้านตาก จ.ตาก
จุดหมายของเราในวันนี้ คือ ยอดดอยสอยมาลัย มีความสูงประมาณ 1,664 เมตร วัดจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น สูงที่สุดในจังหวัดตาก จึงได้ชื่อว่า “หลังคาเมืองตาก” โดยการจะขับรถขึ้นไป ต้องแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ หน่วยพิทักษ์ป่ากิ่วสามล้อ ก่อนขึ้นดอยสอยมาลัยทุกครั้ง
สภาพป่าของดอยสอยมาลัยเป็นป่าสนเมืองหนาว ที่มีจุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้า ช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือน พ.ย.-ม.ค. เป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด โดยสามารถกางเต้นท์ได้บริเวณที่ทำการ ควรเลี่ยงช่วงฤดูฝนหรือวันฝนตกหนัก เพราะสภาพเป็นดินและมีร่องน้ำ ถ้ารถมีสมรรถนะไม่พอ และผู้ขับไม่มีประสบการณ์ หรือเข้าไปคันเดียว ถ้าเกิดเหตุ คุณจะต้องลุ้นว่าจะขอความช่วยเหลือยังไง เนื่องจากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และไม่มีแหล่งชุมชน
การเดินทางขึ้นยอดดอยต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น โดยทริปนี้เราใช้ ALL NEW TRITON ATHLETE ที่ใช้ยางเดิมติดรถ เป็นพาหนะการเดินทาง ซึ่งผ่านอุปสรรคไปอย่างง่ายดาย สมรรถนะของรถพลังเหลือเฟือ แรงบิดมหาศาล ทำให้ขับไต่เขาขึ้นไปได้อย่างไม่หนักใจ ในส่วนของช่วงล่างยังโดดเด่นกับระบบต่างๆที่มีให้อย่างครบครัน ทางขรุขระบนเขาตลอดทางทำให้รับรู้ถึงระบบช่วงล่างที่นุ่ม หนึบ ทำให้การเดินทางสบายมากขึ้น
ทางรถวิ่งเล็กลงเรื่อยๆ ต้นไม้สองข้างทางก็ขูดตัวถังรถตลอดเวลา ยิ่งขับไปหินลอย หินก้อนใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นยิ่งมาก ที่สำคัญยกหลบไม่ได้เราต้องขับผ่านเข้าไป เลาะริมเขา ส่วนอีกด้านเป็นเหว สิ่งที่ช่วยได้คือระบบขับเคลื่อนที่ดี และตัวช่วยที่ให้มากับระบบของรถให้ขับสบายมากขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่ได้ใช้จริง คือ กล้องมองรอบคัน เพราะผ่านทางแคบ ทำให้ผ่านอุปสรรคมาอย่างง่ายดาย
All New Mitsubishi Triton Athlete รถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดของทางมิตซูบิชิ มาพร้อมกับงานออกแบบภายใต้แนวคิด “บีสต์ โหมด” (BEAST MODE) สำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัยพร้อมไลฟ์สไตล์แบบพรีเมียม ที่ผสานความปราดเปรียวสไตล์สปอร์ตสุดล้ำ มาพร้อมรูปลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตา สะท้อนความบึกบึนและทรงพลังในแบบฉบับรถกระบะที่แท้จริง ด้วยการตกแต่งชุดพาร์ทรอบคันด้วยโทนสีดำเงา ทั้งในส่วนของกระจังหน้า และกันชนหน้า, ซุ้มล้อ, มือเปิดประตูภายนอก, ฝากระจกมองข้าง, ราวหลังคา, สปอร์ตบาร์ที่กระบะท้าย, มือเปิดฝากระบะท้าย และกันชนท้าย รวมทั้งยังได้รับล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว พร้อมตอกย้ำความเท่ด้วยตัวถังสีพิเศษสีส้ม Yamabuki Orange Metallic ที่เป็นสีเฉพาะของรุ่นแอทลีท ลีท มอบความโดดเด่นที่ดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน นอกจากนั้นยังมากับเฉดสีตัวถังอื่นๆ ที่โดนใจ ได้แก่ สีดำ Jet Black Mica, สีเทา Graphite Grey และสีขาว White Diamond ในด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว 5,320 มม. ความกว้าง 1,865 มม. ความสูง 1,795 มม. และมีระยะฐานล้อ Wheelbase 3,130 มม. มาพร้อมระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance ที่ 222 มม.
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมการตกแต่งดีไซน์สปอร์ต เช่นเดียวกันตัวถังภายนอกโดยจะมาในโทนสีส้ม-ดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีส้ม สลับหนังกลับสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีส้ม โดยเบาะที่นั่งฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบดันหลังด้วยระบบไฟฟ้า Lumbar Support นอกจากนั้นในส่วนของพวงมาลัยที่เดินตะเข็บด้ายสีส้ม ขณะที่คอนโซลหน้า และแผงประตู ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายสีส้ม ส่วนเพดานหลังคาภายในห้องโดยสารบุด้วยโทนสีดำ แผงแดชบอร์ด ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี LCD ขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ง รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย Wireless รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Mirror Link, ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และระบบนำทาง Navigation System ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ ระบบกุญแจ KOS Smart Keyless Entry, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button, ระบบปรับอากาศ แบบแยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone, ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS, ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง, ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง, ช่องชาร์จไฟ USB Type A / Type C Fast Charge สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ด้านเทคโนโลยีของ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีมิตซูบิชิ คอนเนค ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสั่งการตัวรถแบบไร้สายได้จากระยะไกล ทั้งการเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร การล็อกและปลดล็อกประตูรถ, การเปิดไฟหน้าหลัง การกดแตรรถ และการค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของตัวรถ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานะตัวรถ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง มีฟังก์ชันความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ บริการช่วยเหลือบนถนน, การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม , และระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call) ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ไดมอนด์ เซนส์ อาทิ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว, ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด, ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบคัน ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถและสภาพแวดล้อมด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ควบคุมด้วยระบบ AI ได้รอบคัน
Mitsubishi Triton ใหม่มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่มีความแข็งแกร่งสูง สามารถรองรับแรงปะทะ และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด ในด้านพละกำลังจะมากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร Hyper Power X2 กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II แบบ Full-time เสริมด้วยระบบ Active Yaw Control มาพร้อมโหมดการขับขี่เลือกได้ 7 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัดเชื้อเพลิง (Eco), โหมดลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel), โหมดหิมะหรือฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow), โหมดโคลนหรือผิวทางเหนียวลื่น (Mud), โหมดทรายหรือผิวทางดินร่วน (Sand) และโหมดหินหรือผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock) และยังมีเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะที่เหนือกว่า มั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time All Wheel Control (4H) ได้อย่างง่ายดายเมื่อต้องการทำความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ราคาจำหน่าย ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท รุ่น Double Cab – ATHLETE 2WD AT ราคา 1,125,000 บาท รุ่น Double Cab – ATHLETE 4WD AT ราคา 1,298,000 บาท (สำหรับสีขาว White Diamond เพิ่ม 10,000 บาท ในทั้ง 2 รุ่น)