หลังจากที่ฮอนด้าได้แนะนำ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบค ใหม่ ไปไม่นานล่าสุดมีการจัดกลุ่มทดลองขับ เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสถึงสมรรถนะของรถยนต์ โดย ซีวิค แฮทช์แบค เป็นเจเนอเรชันที่ 10 มีแนวคิดการออกแบบ “The Civic-Creating a way of Life” สไตล์รถ 5 ประตู ที่มาพร้อมกับขุมพลัง 1.5 ลิตร VTEC Turbo ให้การขับขี่ที่สนุกสนาน
รูปลักษณ์ภายนอกเน้นเส้นสายด้านข้างที่ดูคมชัด ให้ความสปอร์ต กันชนด้านหน้ารูปรังผึ้ง ฝากระโปรงหน้าลาดต่ำลง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยนการขับให้ดีขึ้น ส่วนไฟท้ายรูปทรงตัว C ใช้ไฟแบบ LED ตัวถังด้านหน้าและระยะฐานล้อแบบเดียวกับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิครุ่นซีดาน แตกต่างตรงเสา B จรดท้ายตัวถังรถที่ได้รับการออกแบบใหม่ ซึ่งเส้นหลังคาด้านท้ายรถจะมีความสูงกว่ารุ่นซีดาน จุดประสงค์เพื่อเพิ่มการบรรทุกสัมภาระด้านท้าย ส่วนมิติตัวถัง ยาว 4,501 มม. กว้าง 1,799 มม. สูง 1,421 มม. หากเทียบกับรถยนต์ ซีวิค เทอร์โบ RS ซีดาน จะมีความยาวของตัวรถสั้นกว่า 129 มม.ส่วนของความสูงแทบจะไม่แตกต่าง ส่วนช่วงล้อมีหน้ากว้างและขนาดใหญ่ ทำให้มีความโดดเด่นด้านการทรงตัว ความยาวของฐานล้อ 2,697 มม. ทำให้ระยะโอเวอร์แฮงสั้นลง
ภายในห้องโดยสารเมื่อดูจากภายนอกแล้วเหมือนแคบ แต่พอได้เข้าไปนั่งภายในมีการออกแบบให้โปร่ง นั่งสบาย ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้นส่งผลให้ภายในมีความกว้างกว่ารุ่นซีดานเล็กน้อย อุปกรณ์ภายในใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังค์ชันความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น) พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT แสดงผลฟังค์ชันหลากหลาย มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย มาตรวัดและแผงหน้าปัดออกแบบได้ทันสมัยมีมาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ , วัดระดับเชื้อเพลิง , วัดรอบเครื่อง , มาตรวัดความเร็วแสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล พร้อมสีบนหน้าปัดที่ดูสปอร์ต เร้าใจ คอนโซนกลางมีช่องใส่ของอรรถประโยชน์และมีช่องเสียบ USBกุญแจแบบรีโมทที่สั่งการได้จากระยะไกลเพื่อปรับอุณภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายก่อนการเดินทาง เบาะนั่งด้านคนขับแบบไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ส่วนแอร์สามารถปรับอุณภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา
ขุมพลังของฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบค ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC Turbo ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด เครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ตั้งแต่รอบต่ำ อีกทั้งยังใช้เทอร์โบชาร์เจอร์ ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้า ติดตั้งใบพัดขนาดเล็ก เพื่อนำไอเสียส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ เมื่อเหยียบคันเร่งสามารถตอบสนองได้ทันใจ ลดปัญหาของอาการเทอร์โบ Lag จากการทดลองขับ สมรรถนะของเครืองยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้ดีเกินคาด พละกำลังมาตั้งแต่ออกตัว ความจัดจ้านของเครื่องยนต์ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนาน ช่วงที่กดคันเร่งยาวๆตัวรถพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อทดลองแซงพละกำลังของเครื่องยนต์มีต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจมากขึ้นในการขับขี่ ส่วนของอัตราตัวเลขในการทดลองขับในเมืองและถนนโล่งเพื่อทอลองใช้ความเร็วสูง เฉลี่ยออกมาที่ 13 กม./ลิตร (ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่) ถือว่าให้กำลังแรงและยังให้ความประหยัด เบาะนั่งด้านหน้าออกแบบให้ลาดต่ำลงเพื่อเพิ่มความสปอร์ตซึ่งผู้เขียนมีความสูง 160 ซม.มีความเห็นส่วนตัวว่าตำแหน่งของเบาะต่ำเกินไป และส่วนของเสา C ออกแบบใหญ่ไปหน่อย เพราะเมื่อลองขับขี่จริงแล้วต้องเลี้ยวกลับรถ เสา C มีความใหญ่บังการมองเห็น แต่ด้วยการที่เป็นรถแบบ 5 ประตู ทางฮอนด้าได้ออกแบบให้เสา C มีความกว้างเพื่อความแข็งแกร่ง ส่วนช่วงล่างมีความหนึบกว่ารุ่นซีดาน ช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ดี พวงมาลัยควบคุมง่าย แม่นยำ ภายในห้องโดยสารนุ่มเงียบและนิ่ง
ซีวิค แฮทช์แบค มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบมัลทิลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง เซทคอยล์สปริงใหม่ เพื่อให้ขับได้มั่นใจ ในสไตล์สปอร์ท มากขึ้น ช่วยในเรื่องการทรงตัวและซับแรงกระแทกได้ดี ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ให้ความเบาสบาย ใช้งานในเมืองคล่องตัว ขนาดล้อ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17 มั่นใจได้ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และเข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง ซีวิค แฮทช์แบค เทอร์โบ ใหม่ เป็นรถกลุ่มซีเซกเมนท์ ที่น่าจับตามองด้วยการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว โดนใจ มากับพละกำลังที่ใครขึ้นไปขับต้องติดใจ ทั้งยังไม่บริโภคน้ำมันจนมากเกินไป นับเป็นตัวเลือกน่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง สนนราคา 1,169,000 บาท ผู้สนใจทดลองขับเพื่อสัมผัสพละกำลังด้วยตัวคุณเองก่อนตัดสินใจที่โชว์รูมและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ