ฟอร์ด ประเทศไทย พาสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” กระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ที่อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่มาพร้อมความแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบ Terrain Management System (TMS) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ รวมถึงโหมดบาฮา บนเส้นทางที่ท้าทายเพื่อการขับขี่ทุกรูปแบบโดยเฉพาะการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง ตอกย้ำนิยาม “เกิดมาแกร่ง” ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ก่อนเดินทางมีการบรีฟข้อมูลผลิตภัณฑ์และเส้นทางการเดินทางที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร ซึ่งโปรแกรมการขับขี่ตลอด 2 วัน รวมระยะทางราว 596 กิโลเมตร ในการสัมผัสนิยามใหม่ของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อีกขั้นของความแกร่งตามแบบฉบับเฉพาะของ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” หลังจากนั้นได้ออกเดินทางโดยนั่งคันละ 3 คน และมีการสลับผู้ขับขี่เป็นระยะ ผู้เขียนได้ทดลองขับขี่ในเมืองช่วงแรก รู้สึกว่าความกว้างใหญ่ของตัวถังทำให้การขับขี่ผ่านการจราจรติดขัดค่อนข้างยาก โดยต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะตัวรถค่อนข้างสูงใหญ่ ส่วนของมุมอับสายตาต่างๆออกแบบมาได้ดี ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์มีมุมมองโปร่งสบาย ติดตรงที่ความใหญ่ของรถอาจจะทำให้มอเตอร์ไซค์ที่ชอบซอกแซกในเมืองแอบด่าในใจเล็กๆเมื่อเราติดอยู่บนถนนในเมือง เมื่อผ่านการจราจรออกมาสู่ทางไฮเวย์ ได้สัมผัสถึงสมรรถนะอัตราเร่งเต็มๆ โดยอัตราเร่งของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทำได้ดีจะเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ การตอบสนองของเครื่องยนต์ทำได้ดี และการควบคุมรถทำได้ง่าย น้ำหนักพวงมาลัยแม่นยำ ทำให้การเข้าโค้งต่างๆรู้สึกมั่นใจ ทั้งนุ่มทั้งหนึบกำลังดี
“ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอบพละกำลัง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตรและระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มอบความนุ่มนวล โดยสามารถเลือกการขับขี่แบบแมนนวล ที่ผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้เอง เพื่มความสนุกสนานในการขับขี่บนถนนทั้งทางเรียบและทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขา หรือเลือกการขับขี่โหมดสปอร์ต ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง พร้อมค้างรอบเครื่องสูงไว้เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้น และด้วยพวงมาลัยของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วตามความต้องการ ผนวกกับการออกแบบภายในตามดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่มอบความสะดวกสบาย เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยตลอดการเดินทางบนเขาใหญ่
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังสนาม 8 Speed เขาใหญ่ ที่ถูกเนรมิตเป็นสนามออฟโรด พร้อมรับการบุกตะลุยบนทุกสภาพพื้นผิวด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) ในโหมดการขับขี่ออฟโรดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกได้จากปุ่มบนพวงมาลัยอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดหิน สำหรับพื้นผิวในเขตภูเขาลาดชัน ใช้ความเร็วต่ำ เน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ โหมดหญ้า/กรวด/หิมะ ที่ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ ซึ่งระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ โหมดโคลน/ทราย ที่สามารถปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและเปลี่ยนสภาพได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง การขับขี่ช่วงนี้ ได้ทดลองขับเพื่อให้รถเหิร หรือ บิน อยู่บนอากาศ ซึ่งใครๆก็ทำได้ แต่หลังจากที่ตัวรถตกลงมาสู่พื้น ระบบช่วงล่างของรถเป็นสิ่งสำคัญในการรองรับ เมื่อได้ทดลองจริงต้องยอมรับว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ใช้ระบบรองรับแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ มีจังหวะที่ลงกระแทกกับพื้นได้ดีกว่ารถปิคอัพทั่วไป โดยเมื่อตัวรถลอยและตกลงสู่พื้นผู้เขียนรู้สึกได้ถึงความนิ่งและการควบคุมรถที่ทำได้ง่าย ส่วนช่วงล่างเซ็ทโช้คอัพหน้า/หลัง เป็นของ Fox แบรนด์ที่มีเทคโนโลยี และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจากอเมริกา หลังจากนั้นคณะสื่อมวลชนจึงเดินทางเข้าพักและร่วมแลกเปลี่ยนความประทับใจที่มีต่อฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ในวันถัดมาออกเดินทางสู่ทุ่งกังหันลมห้วยบง ที่มีการจำลองให้เป็นสนามทดสอบการขับขี่เฉพาะกิจ เพื่อพิสูจน์การขับขี่ออฟโรดสมรรถนะสูงบนทุกสภาพพื้นผิว บนเส้นทางทรายและเส้นทางกรวดหินที่มีพื้นผิวที่ลื่น เป็นหลุมเป็นบ่อ ด้วยการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง โดยใช้โหมดบาฮา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Baja 1000 รายการแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ ในโหมดนี้ ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม พิสูจน์ประสิทธิภาพเหนือชั้นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง และยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลุยทุกสภาพพื้นผิวอันสมบุกสมบันเป็นพิเศษสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โดยเฉพาะ หลังจากสื่อมวลชนได้ทดสอบการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงในเส้นทางกว่า 10 กิโลเมตร ก็เดินทางไปทางอาหารและเดินทางกลับ กทม. ซึ่งภาพรวม ต้องบอกว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นปิคอัพพรีเมี่ยมที่ใส่มาเต็มทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบรองรับต่างๆ โดยหากอยากเป็นเจ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ นี้เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ 1,690,000 บาท
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี วันนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมแล้วที่จะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เป็นหัวใจหลัก ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ซึ่งมีเทคโนโลยี นวัตกรรม ในการขับขี่ ไม่ว่าคุณจะเดินทางบนท้องถนนที่ราบเรียบหรือขับตะลุยบนเส้นทางสุดทรหด ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมเปลี่ยนทุกประสบการณ์การขับขี่ให้เป็นความทรงจำอันน่าประทับใจ โดยผู้สนใจทดลองขับได้ด้วยตัวเองที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ