เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) พาสื่อมวลชนร่วมทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดกับ The new A-Class เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่ง The new A-Class มาพร้อมดีไซน์ใหม่และความสะดวกสบายขั้นสุด อาทิเช่น ห้องโดยสารโปร่งสบาย ด้วยหลังคา Panoramic sliding sunroof ให้ความสปอร์ตโดดเด่นเหนือใครกับกระจังหน้า Star pattern radiator grille และสัมผัสกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียรุ่นล่าสุด MBUX NTG7
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เผยโฉม The new A-Class โมเดลปี 2023 เจเนเรชั่นที่ 4 ของ A-Class ในรุ่น A 200 AMG Dynamic ย้ำภาพยนตรกรรมระดับ Entry Luxury ภายใต้คอนเซ็ปต์ “CLASS FOR EVERY DAY” ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่กับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัวในการขับขี่ โดดเด่นด้วยความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตซีดานยุคใหม่ สำหรับโมเดลล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ปรับเสริมอุปกรณ์มาตรฐาน และติดตั้งเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยให้มีความครบครันมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิดจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้นที่ 2,320,000 ล้านบาท
The new A-Class รุ่น A 200 AMG Dynamic มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร เทอร์โบ แบบ 4 สูบแถวเรียง พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ในด้านของระบบเครื่องยนต์ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการออกแบบตามแนวคิด The art of engineering พร้อมติดตั้งระบบ Cylinder shut-off ที่ทำให้เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนด้วยลูกสูบเพียง 2 ลูกสูบ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ โดยทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) แบบคลัตช์คู่ จับคู่กับระบบอัดอากาศ Turbocharger ที่ทำให้มีกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620 - 4,000 รอบต่อนาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 8.3 วินาที มีการติดตั้งระบบเปลี่ยนเกียร์ด้วย Paddle shift ที่พวงมาลัย พร้อมปรับเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ คือ Eco, Comfort, Sport และ Individual ซึ่งสามารถปรับใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละรูปแบบการใช้งาน โดยเสริมความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Lowered comport suspension รองรับการใช้น้ำมันได้ถึง E85 ตามมาตรฐาน EURO6 ซึ่งสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยสูงสุด 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร
ขนาดตัวถังและดีไซน์ภายนอก The new A-Class มีมิติตัวถัง กว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 1,796 x 4,558 x 1,429 มิลลิเมตร ตกแต่งในสไตล์สปอร์ตด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Star pattern radiator grille กระโปรงหน้าแบบ Power dome ออกแบบให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ระบบไฟหน้าใหม่แบบ LED High-Performance ดีไซน์รูปแบบการแสดงแสงไฟหน้าใหม่แบบ reflection technology พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist รุ่นล่าสุดเสริมระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทและปิดล็อกรถยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พกกุญแจไว้กับตัว และระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงหลังด้วยแบบ HANDS-FREE ACCESS พร้อมติดตั้งล้ออัลลอยด์ใหม่ดีไซน์สปอร์ต AMG 5-twin-spoke สีดำ ขนาด 18 นิ้ว (225/45 R18)
ภายในห้องโดยสารของ The new A-Class ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยหนัง Nappa เสริมความดุดันด้วยเบาะหุ้มหนัง ARTICO สไตล์สปอร์ต ตัดสลับ MICROCUT microfibre สีดำ ตกแต่งเดินด้ายสีแดง สำหรับเบาะนั่งคู่หน้าติดตั้งระบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำแบบ memory seat และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง บริเวณฝั่งคนขับให้ข้อมูลการขับขี่และแสดงผลผ่านจอมาตรวัดแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมควบคุมการสั่งการภายในรถ ผ่านหน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง Apple CarPlay™ และ Android Auto™ รวมถึงฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก อาทิ ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ DYNAMIC SELECT ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แยกปรับอุณหภูมิ 2 โซน พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อมช่อง USB Type-C 4 ช่อง สร้างบรรยากาศที่เหนือชั้นด้วยไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสารแบบปรับได้ 64 เฉดสี และครั้งแรกของ The new A-Class กับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายของห้องโดยสาร
พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เหนือชั้นระหว่างระบบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียเจเนเรชั่นใหม่ล่าสุด “MBUX7” ที่เพิ่มระบบ AI (Artificial intelligence) ซึ่งสามารถเรียนรู้และประเมินพฤติกรรมและการใช้งานของแต่ละผู้ใช้งานได้อย่างอัจฉริยะ พร้อมรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง 27 ภาษา นอกจากนี้ระบบ MBUX ยังสามารถอัปเดตและปรับปรุงระบบได้ด้วยตัวเองผ่านสัญญาณไร้สาย LTE อัตโนมัติแบบ over the air พร้อมผสานการทำงานอย่างลงตัวกับบริการ Mercedes me connect ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโลกดิจิทัลและเข้าถึงฟังก์ชันชั้นนำของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แบบไร้ขีดจำกัด
The new A-Class มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ADAPTIVE Brake ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบแอคทีฟ (Active Break Assist system) ไฟกระพริบเบรกฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู (Exit Warning Function) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ระบบแจ้งเตือนระดับแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
The new A-Classรุ่น A 200 AMG Dynamic เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ (เครื่องยนต์สามารถรองรับน้ำมัน E85) แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 8.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
A200 AMG Dynamic ใหม่ 2023 ปรับเปลี่ยนหลายจุด ภายนอกถูกปรับให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ถ้ามองจากด้านหน้าจะพบกับกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าใหม่ ฝากระโปรงใหม่ กันชน AMG ใหม่ ล้อสีใหม่ ฝาท้ายแบบ Kick Sensor สำหรับภายในหรูหราโปร่งสบายกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ส่วนของ Touchpad หายไป เปลี่ยนเป็นช่องวางของซึ่งมีขนาดเล็กไปหน่อย ซึ่งถ้าเพิ่มความยาวอีกเล็กน้อยจะวางมือถือขนาดไอโฟน 14 PROMAX ได้ ที่ตัด Touchpad ออกไป คือ ต้องการให้ระบบ “MBUX7” ใหม่ ทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นพร้อมรองรับคำสั่งเสียงได้ ที่เอาออกไปเพราะ Touchpad มีความจำเป็นน้อยลง ด้านหลังยังเพิ่มช่องแอร์ขึ้นมา
The new A-Class มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ADAPTIVE Brake ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบแอคทีฟ (Active Break Assist system) ไฟกระพริบเบรกฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู (Exit Warning Function) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ระบบแจ้งเตือนระดับแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
เมื่อได้ทดลองขับ หลายคนมองว่าเครื่อง 1.3 ลิตรเทอร์โบ เครื่องเล็กเหมือนอีโคคาร์ แต่ในความเป็นจริงสมรรถนะการขับขี่ทิ้งความเป็นอีโคคาร์ได้เลย ทั้งอัตราเร่ง การเร่งแซง ที่บอกว่าเหมือนอีโคคาร์คือความประหยัดที่ได้มา ตัวถังรถขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ขับขี่ในเมืองได้คล่องแคล่ว การตอบสนองของเครื่องยนต์ดี มีระบบต่างๆมากมาย รวมถึงเซ็นเซอร์รอบคัน ขับขี่นอกเมืองถนนโล่งอัตราเร่งตอบสนองทันใจ ส่วนอัตราประหยัดที่ทำได้ในการทดลองขับ 14 กม./ลิตร (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคน) ได้ทดลองโหมด eco ให้ระบบ Cylinder shut-off ให้เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนด้วยลูกสูบ 2 ลูกสูบ ขับขี่ไม่เกินความเร็วกฎหมายกำหนดอยู่ที่ 100-120 กม./ชม. ได้อัตราประหยัดเพิ่มขึ้นที่ 19 กม./ลิตร ส่วนของช่วงล่างแข็งแน่นหนึบ ขับสนุก น้ำหนักพวงมาลัยดี ทำให้มั่นใจเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง The new A-Class รุ่น A 200 AMG Dynamic สนนราคา 2,320,000 บาท มีสีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน และสีเทา